เมียบุกยิงตำรวจพระโขนง ผกก.เผย ผู้ก่อเหตุอายุ 66 ไม่ได้ท้อง - ไม่ได้มีเมีย 4 คน ชี้ปมปัญหาครอบครัว

จากกรณีที่เมื่อเวลา 00.01 น. วันที่ 22 ต.ค.65 ได้เกิดเหตุยิงกันภายใน สน.พระโขนง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ แพรขาว ซึ่งอยู่ระหว่างทำหน้าที่สารวัตรเวรสอบสวน สน.พระโขนง


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ยืนสูบบุหรี่บริเวณหลังฐานพระรูปปางลีลา ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้า สน.พระโขนง มีหญิงรายหนึ่งเดินเข้ามาหาพูดคุยกัน แล้วเกิดมีปากเสียงโต้เถียงกัน จากนั้นหญิงคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวมา ยิง พ.ต.ท.กษิติ์ยศ บาดเจ็บสาหัส จากนั้น พ.ต.ท.กษิติ์นศ ได้พยายามหนีกระเสือกระสนเข้าไปบริเวณห้องรับแจ้งความ โดยมีเพื่อนตำรวจเข้ามาประคองร่างที่ถูกยิงนอนอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์เข้าเจรจากับคนร้าย ยอมจำนนวางอาวุธปืน ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว  


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุมีรายงานว่า พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ชีวิตคู่มีภรรยา 4 คน มีคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนหญิงที่ก่อเหตุเป็นภรรยาคนหนึ่งในบรรดาเมีย 4 คน ปัจจุบันตั้งครรภ์หลายเดือน คาดมีปัญหาครอบครัวกับ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ก่อนบุกเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว


ขณะที่ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาครอบครัว ไม่ต้องการให้ข่าวทำให้เสียภาพพจน์ตำรวจ แต่ก็ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุไปตามขั้นตอนของกฎหมาย


ต่อมาวันเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางไปยัง สน.พระโขนง เพื่อติดตามคืบหน้าทางคดี แต่ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลแก่ทีมข่าว ต่างพากันปิดปากเงียบ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังร้อยเวร สน.พระโขนง แต่ร้อยเวรไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างใด อ้างว่าให้ผู้ใหญ่เป็นคนพูด ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา จากสังเกตพบว่า ที่บอร์ดด้านหน้าไม่พบรายชื่อของผู้ต้องขัง


ผู้สื่อข่าวได้ลองสอบถามสิบเวรประจำห้องควบคุมผู้ต้องหา ระบุว่า ตั้งแต่เข้าเวร 08.00 น. ยังไม่พบชื่อผู้ถูกเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหาในบัญชีรายชื่อตั้งแต่เมื่อคืน และไม่มีการลงชื่อใครไว้ในสมุดบันทึกด้วย จึงคาดการณ์ว่าผู้ก่อเหตุอาจจะได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงไม่ปรากฏชื่อของผู้ต้องขังตั้งแต่เมื่อคืนแต่อย่างใด และตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้ต้องขังในห้องควบคุมผู้ต้องหา


ในขณะที่ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.พระโขนง ได้ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ว่า หลังจากเกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็เข้ามอบตัวทันที ไม่ได้หลบหนีไปไหน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบสวนตามขั้นตอน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ ได้แก่ พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ


พ.ต.อ.วชิรากรณ์ เผยว่า ตอนเกิดเหตุ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ขณะยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้มี น.ส.อำไพศรี หรือสมศรี พยงค์ศรีทวี อายุ 66 ปี ภรรยา ที่อยู่กินด้วยกัน เป็นสามีภรรยากัน มาประมาณ 2 ปี และไม่มีบุตรร่วมกัน และไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส มาที่โรงพักเพื่อตามหา พ.ต.ท.กษิติ์ยศ จากนั้นได้พากันไปพูดคุยบริเวณหน้าสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง


กระทั่ง น.ส.อำไพศรี นำอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ออกมายิงใส่ผู้บาดเจ็บ จำนวน 1 นัด กระสุนเข้าที่แขนข้างขวา ทะลุเข้าหน้าท้องข้างขวากระสุนฝังใน ส่งผลให้ พ.ต.ท.กษิติ์ยศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะพยายามหนีเข้าไปที่ห้องรับแจ้งความในโรงพัก โดยมีเพื่อนตำรวจ คือ ด.ต.ประยุทธ์  ผู้ช่วยร้อยเวร เข้ามาประคองร่างที่ถูกยิงนอนลงกับพื้น ก่อนที่ตำรวจจะเข้าเจรจากับคนร้าย ยอมจำนนวางอาวุธปืน ก่อนจะประสานอาสากู้ชีพนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ รักษาโดยด่วน หลังเกิดเหตุนางสาวอำไพศรีได้เข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุต่อพนักงานสอบสวน


จากการตรวจสอบอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนแบบ ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน พร้อมกระสุนปืนจำนวน 7 นัด และในแมกกาซีนอีก 1 นัด


พ.ต.อ.วชิรากรณ์ บอกอีกว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนปมการก่อเหตุครั้งนี้ มาจากปัญหาภายในครอบครัว บวกกับบันดาลโทสะ เพราะก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าเรื่องอะไร ส่วนปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ยิง เป็นปืนของผู้ก่อเหตุเอง อีกทั้ง ผกก.ยืนยันว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ท้อง ตามที่ข่าวนำเสนอออกไปก่อนหน้านี้ เพราะผู้ก่อเหตุอายุ 66 ปีแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ตอนนี้อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว


สำหรับประเด็นที่มีข่าวออกไปว่าผู้บาดเจ็บมีภรรยาถึง 4 คนนั้น ผกก.ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวเอามาจากไหน ซึ่งเบื้องต้นจะไม่มีการแถลงข่าวใด ๆ เพราะมองว่าคดีจบแล้ว แต่หากมีประเด็นไหนที่ยังสงสัย ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลกับ ผกก.สน.พระโขนง เพิ่มเติม ถึงเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่ถูกยิง ถึงกรณีที่อ้างว่ามีภรรยาถึง 4 คน ไปจนถึงแนวทางการสืบสวนคดีและการฝากขังผู้ต้องหาต่อศาล แต่ไม่สามารถติดต่อได้


ในขณะที่ นางอรจิรา อายุ 75 ปี แม่ค้าร้านขายของชำติดกับโรงพัก เจ้าตัวบอกว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเข้านอนกันแล้ว และห้องนอนอยู่ชั้น 2 เป็นห้องแอร์เก็บเสียง จึงไม่ได้ยินเสียงปืนแต่อย่างใด แต่เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 21 ต.ค. ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง สารวัตรผู้บาดเจ็บเพิ่งมาซื้อเครื่องดื่มชูกำลังที่ร้าน ในลักษณะท่าทีที่สดชื่น แจ่มใส ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย เพราะตอนนั้นร้านปิดแล้ว และปกติเขาก็จะมาซื้อบุหรี่ เบียร์และเครื่องดื่มชูกำลังที่ร้านประจำ


สำหรับนิสัยใจคอ นางอรจิรา กล่าวว่า สารวัตรผู้บาดเจ็บเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี แจ่มใส ส่วนเรื่องเมียของผู้บาดเจ็บ ตนรู้เพียงแค่ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว 1 คน มีลูกด้วยกัน 3 คน และที่ผ่านมาก็เคยเห็นสารวัตรผู้บาดเจ็บพาผู้หญิงอีก 1 คนมาที่ร้าน ท่าทางดูสนิทสนมคล้ายแฟน แต่จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่อยู่ในสถานะอะไรกัน เพราะช่วงหลัง ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็หายไป


ส่วนผู้หญิงที่เป็นผู้ก่อเหตุนั้น ดูจากรูปที่เป็นข่าว ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ยอมรับว่าหลังจากทราบข่าว ก็ตกใจมาก เพราะอย่างที่บอกว่าตอนค่ำผู้บาดเจ็บยังมาซื้อของที่ร้าน

https://youtu.be/8PQip5FYSm0