กระแสน้ำกัดเซาะถนนขาด เตือน 3 อำเภออยุธยา เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุถนนคันคลองชลประทาน ของทุ่งผักไห่-เจ้าเจ็ด ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ 7 ต.รางจระเข้ อ.เสนา จ.อยุธยา ถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยกัดเซาะใต้ฐานคันกั้นน้ำ ทำให้ถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อ.เสนา ,อ.บางซ้าย และอ.ลาดบัวหลวง ด่านแรกโรงพยาบาลเสนา ซึ่งติดกับคลองจะได้รับผลกระทบ



โดยก่อนเกิดเหตุ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชุมชนใกล้กับที่เกิดเหตุต่างพากันนำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ข้ามถนนที่กำลังจะทรุดตัวออกมาได้ทัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเสนา เร่งตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสายไฟจากเสาไฟฟ้า เนื่องจากหวั่นว่าเสาไฟฟ้าจะถูกน้ำกัดเซาะจนเสาไฟฟ้าล้ม โดยมีกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากซึ่งอยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำ ต.เจ้าเจ็ด , ต.มารวิชัย ของ อ.บางซ้าย ,อ.ลาดบัวหลวง มาสังเกตการณ์ ท่ามกลางความแตกตื่น



นายนพพร หล่อเลี่ยม ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.รางจระเข้ เปิดเผยว่า จุดที่ถนนขาด น้ำกัดเซาะถนนซึ่งมีท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ที่อยู่ใต้พื้นผิวถนนจนทะลุ ทำให้ถนนทรุดตัวพังทลาย มวลน้ำของแม่น้ำน้อยที่ล้นตลิ่งท่วมอยู่ในพื้นที่ของ ต.รางจระเข้ , ต.บ้านโพธิ์ , ต.เสนา ของ อ.เสนา ไหลบ่าลงสู้พื้นที่ ต.เจ้าเจ็ด , ต.เจ้าเสด็จ ของ อ.เสนา , อ.บางซ้าย และอ.ลาดบัวหลวง



ต่อมา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา , นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา , นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกลกรมชลประทาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที



นายนิวัฒน์ กล่าวว่า จุดที่เกิดถนนทรุดตัวใต้พื้นผิวถนน จะเป็นท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ที่เดินท่อสูบน้ำไว้ใต้ถนน มวลน้ำจำนวนมาจากแม่น้ำน้อยที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ได้กัดเซาะจนถนนเกิดการขาดทรุดตัว ได้ร่วมกันวางแผนกับทางชลประทาน เพื่อเร่งดำเนินการปิดกั้นมวลน้ำไม่ให้ไหลลงสู้พื้นที่ท้ายน้ำ ซึ่งทางอำเภอเสนา ประสานผู้น้ำท้องถิ่นแจ้งเตือนชาวบ้านให้เตรียมพร้อมสถานการณ์แล้ว



จากการประเมินแล้ว มวลน้ำประมาณ 90 ลบ.ม./วินาที ไหลลงคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ไปในพื้นที่ อ.เสนา ,อ.บางซ้าย และอ.ลาดบัวหลวง