รู้ตัวแล้ว! แก๊งไอ้โม่ง ควงปืนสงคราม บุกปล้นพ่อค้ากัญชา ลูกชาย 9 ขวบไหว้ขอชีวิต กลับถูกใช้ปืนจ่อหัว

ตำรวจรู้ตัวแล้ว กลุ่มชายฉกรรจ์ควงอาวุธสงครามบุกปล้นทรัพย์ พ่อค้าขายกัญชา ที่ย่านพระราม 2 เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ 3 ข้อหา ขณะที่ครอบครัวคนเจ็บ เชื่อผู้บงการ เป็นกลุ่มขบวนการค้ากัญชา ที่เคยมีปัญหากันมาก่อน


ภาพวินาที ที่กลุ่มชายฉกรรจ์เกือบสิบคน พร้อมมีปืนอาวุธปืนสงคราม วิ่งลงมาจากห้องพักของ นายวิวัฒน์ หรือ อาร์ม ซึ่งเป็นพ่อค้ากัญชา โดยที่เกิดเหตุคือการเคหะการไฟฟ้าธนบุรี 2 ย่านถนนพระราม 2


หลังเข้าไปทำร้ายร่างกายนายอาร์ม พร้อมข่มขู่ว่าเป็นตำรวจ และยังได้ยึดกุญแจรถฮอนด้าซีวิค และ แหวนทองอีก 1 วง ของนายอาร์มไป


โดยหลังก่อเหตุชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ ได้วิ่งถือปืน ลงมาจากห้องของนายอาร์ม แล้วสวนกับพ่อตาและแม่ยายของนายอาร์ม ที่กำลังวิ่งขึ้นไปช่วยเหลือลูกชาย ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้จึงเอาปืนจ่อหัวพร้อมขู่ว่าถ้าไม่อยากตายอย่ามายุ่งเรื่องนี้


ขณะที่คุณไอซ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายอาร์ม บอกว่าวันเกิดเหตุ คือช่วง 5 ทุ่มครึ่ง ของวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา สามีของตน ได้ถูกคนกลุ่มนี้ ติดต่อมาทางไลน์เพื่อจะขอซื้อกัญชา สามีของตนจึงนัดให้มาดูกัญชาที่ห้องพัก


จากนั้นเพื่อนของตน ชื่อมีน จึงได้ไปหาคนกลุ่มนี้ที่ลานจอดรถ ซึ่งตอนแรกพบว่ามากันเพียง 2 คน โดยขับรถเก๋งมาโดยเมื่อชาย 2 คนนี้ มาถึงที่ห้องตนจึงออกไปข้างนอก เพื่อจะไปซื้อน้ำมาให้


แต่พอตนปิดประตูก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากสามีว่าถูกทำร้าย ตนจึงตะโกนและทุบประตูห้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จังหวะนั้นได้มีชายฉกรรจ์อีกเกือบหลายคน แต่งกายมิดชิด ถือปืนขึ้นมาที่ห้อง แล้วก็ทำร้ายร่างกายตน และยิงประตูห้องลากตนเข้าไปข้างใน


จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ข่มขู่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และ พยายามให้สามีของตนเอาทรัพย์สินออกมาให้หมด ทั้งเงินสด ทองคำ และพระเครื่อง แต่ตนไม่ยอมต่อสู้ขัดขืน และพยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ส่วนสามีของตนถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ไช้ด้ามปืนยาวตีที่หัวและท้ายทอยจนเลือดอาบ


ที่สำคัญในระหว่างที่ตนและสามีถูกทำร้าย ลูกทั้ง 3 คน ซึ่งอายุ 3 ขวบ 5 ขวบ และ 9 ขวบ อยู่ในห้องและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จนลูกชายวัย 9 ขวบ ได้ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตพ่อจากชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ แต่ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก็ไม่สนใจ และยังเอาปืนมาจ่อหัวลูกชาย


สุดท้ายเริ่มมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงและจะเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ตัดสินใจวิ่งหนีออกมาจากห้อง โดยได้ยึดกุญแจรถเก๋งและแหวนทองของสามีตนไป 1 วง


โดยระหว่างที่วิ่งหนีลงมาจากห้องได้มาเจอกับพ่อและแม่ของตน ที่วิ่งสวนมาเพื่อจะเข้ามาช่วยเหลือ ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ได้ใช้ปืนจ่อที่ศีรษะพ่อและแม่ของตน และบอกว่าถ้าไม่อยากตายอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้


ขณะที่พี่สะใภ้ของนายอาร์มบอกว่า ก่อนหน้านี้น้องสาวและนายอาร์ม เคยถูกจับในคดีขายกัญชา ถูกจำคกไป 11 เดือน และพ้นโทษมาเมื่อเดือนสิงหาคม


เมื่อพ้นโทษก็กลับมาขายกัญชาอีก ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มคนร้ายที่เคยมาลักพาตัวนายอาร์ม ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพราะเข้าใจผิดคิดว่าอาร์ม เอาเงินค่าซื้อขายกัญชาของคนกลุ่มนี้ไป 4 แสนบาท


จนน้องสาวตนเข้าไปช่วยเหลืออาร์มและมีปากเสียงกับกลุ่มคนที่เป็นคนอุ้มนายอาร์ม จึงทำให้คนกลุ่มนี้ผูกใจเจ็บ โทรศัพท์มาข่มขู่ จนกระทั้งมาเกิดเหตุล่าสุด


ขณะที่ตอนนี้นายอาร์มยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยเบื้องต้นแพทย์ได้เย็บแผลที่ศีรษะ และ บาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกายรวม 60 เข็ม และยังคงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาการทางสมอง เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากการถูกซ้อม และ ใช้ด้ามปืนตี


มีรายงานว่า ขณะนี้ตำรวจ สน.ท่าข้าม อยู่ระหว่างเร่งแกะรอยคนร้าย และรู้ตัวแล้ว 1 คน ซึ่งเป็นคนที่ขึ้นไปดูกัญชาที่ห้องนายอาร์มเป็นกลุ่มแรก


โดยอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับ ใน 3 ข้อหา คือ ปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และ พรบ.อาวุธปืน


โดยเมื่อไปถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ข่มขู่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจเพื่อเอาทรัพย์สิน จากนายวิวัฒน์ พร้อมกับทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้ปืนยาว ฟาดไปที่หัวและท้ายทอยนายวิวัฒน์


ซึ่งขณะเกิดเหตุ ภายในห้องนอกจากจะมีนายวิวัฒน์แล้ว ยังมีเด็กอีก 3 คนในจำนวนนี้มีลูกของนายวิวัฒน์อายุ 9 ขวบ