'ชายคลั่งขาดยา' ควงปืนขู่ฆ่าญาติ ชิงรถตร.หนี ก่อนถูกยิง-เสียเลือดมาก สุดท้ายขอมอบตัว

ตำรวจเข้าปิดล้อม จับชายอาการคลุ้มคลั่ง บุกเอาปืนไปข่มขู่ญาติ ขู่จะฆ่าพ่อแม่ให้ตายให้หมด หลังญาติรีบโทรแจ้งตำรวจ เข้ามาสกัดจับ เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด สุดท้ายคนร้ายบาดเจ็บ แต่ชิงรถยนต์ตำรวจและจับเพื่อนสนิทและลูกสาวตัวเองเป็นตัวประกันหลบหนี สุดท้ายต้องขอมอบตัว


ตำรวจ จ.พัทลุงเข้าปิดล้อมบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เพื่อเข้าจับนายเกริกพันธุ์อายุ 43 ปี ซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่ง ส่งแชทไลน์ข่มขู่ญาติบอกจะยิงพ่อแม่ (ซึ่งมีศักดิ์ เป็นน้าคนก่อเหตุ) ก่อนที่ญาติที่ถูกข่มขู่จะรีบโทรแจ้งตำรวจเข้ามาสกัดจับ


ญาติของผู้ก่อเหตุที่ถูกข่มขู่เล่าว่า ตนมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของคนก่อเหตุ ปกติไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ช่วงเวลาประมาณ 12.50 นาฬิกาเมื่อวานนี้ ตนอยู่นอกบ้าน แต่คนก่อเหตส่งแชทไลน์มาหาตน บอกจะเข้าไปฆ่าพ่อกับแม่ตน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ พร้อมกับรีบเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ


จากนั้นอีกประมาณ 30 นาที นายเกริกพันธุ์ ขี่จักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านซึ่งเป็นบ้านของตน โวยวายอาละวาดอยู่สักพัก จนมีตำรวจ 3 นาย ของสภ.ป่าพะยอม ขับรถยนต์สายตรวจมาจอดรถทิ้งไว้ริมถนน ใกล้กับรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ก่อนเข้าระงับเหตุในร้าน


โดยระหว่างตำรวจกำลังพูดคุยเจรจา จู่ๆ นายเกริกพันธุ์ ได้ชักอาวุธปืน .38 กระหน่ำยิงเข้าใส่ตนและแม่ที่ยืนอยู่ภายในร้าน ทำให้ตนและแม่ รวมถึงชาวบ้านที่มาซื้อของที่ร้าน ต่างพากันก้มหลบกระสุนกันหมด


ตอนนั้น ตนพยายามหลบหาที่กำบัง และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดเข้าใจว่า มีตำรวจยิงสวนออกไป จนนายเกริกพันธุ์ได้รับบาดเจ็บ วิ่งหนีออกไปชิงรถยนต์สายตรวจของตำรวจหลบหนี


ซึ่งตนขอยืนยันว่า ตนไม่ได้ใช้ปืนยิงนายเกริกพันธุ์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่นายเกริกพันธุ์ บุกมายิง ตนไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ที่ผ่านมา นายเกริกพันธุ์ เสพยาบ้าหนักจนหลอน และก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า มา 2 คืนติดแล้วก่อนจะมาเกิดเหตุ


หลังจากนายเกริกพันธุ์ ถูกยิงบาดเจ็บแล้ว ก็วิ่งไปที่รถสายตรวจของตำรวจ แล้วขับหลบหนี โดยคาดว่า นายเกริกพันธุ์ ขับรถต่อไม่ไหว จึงขับไปบ้านเพื่อน ก่อนจะใช้ปืนจี้เพื่อนให้มาขับรถให้ และยังบังคับลูกสาว อายุ 13 ปีให้ขึ้นรถสายตรวจตำรวจมาด้วย


โดยนายเกริกพันธุ์ ให้เพื่อนเป็นคนขับ ขณะที่ตัวเองนั่งด้านข้าง ให้ลูกสาวนั่งเบาะด้านหลังเป็นตัวประกัน เพื่อต้องการไม่ให้ตำรวจกล้ายิงใส่รถ


แต่ระหว่างหลบหนี เพื่อนของนายเกริกพันธุ์ กลัวว่าจะถูกนายเกริกพันธุ์ยิง จึงตัดสินใจขับรถชนป้ายข้างทาง โดยนายเกริกพันธุ์ จึงใช้ปืนยิงใส่เพื่อนถูกบริเวณศีรษะ 1 นัด ขาซ้าย 1 นัด แล้วใช้ปืนจี้บังคับลูกสาว หลบไปในบ้านของชาวบ้าน


โดยมีตำรวจตามปิดล้อมนานนับชั่วโมง ซึ่งขณะนั้นนายเกริกพันธุ์ ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปริศนา ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ใครเป็นคนยิงใส่


ต่อมา ลูกสาวของนายเกริกพันธุ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตำรวจ บอกพ่อขอยอมมอบตัว เนื่องจากถูกยิงเข้าที่ขา เสียเลือดมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ลูกสาวเดินออกมาพร้อมอาวุธปืน และส่งมอบอาวุธปืนพกสั้นที่ก่อเหตุให้กับตำรวจ


โดยตำรวจได้รอประเมินสถานการณ์ จากนั้นก็เข้าปิดล้อมที่บริเวณหน้าห้องพักดังกล่าว ก่อนที่ นายเกริกพันธุ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เปิดประตูออกมาเพื่อมอบตัว ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลนายเกริกพันธุ์ ก็มีอาการพูดจากไม่รู้เรื่อง พูดแต่ว่ายิงกับตำรวจมา


ขณะเดียวกัน ตำรวจได้นำตัวเพื่อนของนายเกริกพันธุ์ที่ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล เพื่อส่งไปรักษาโดยด่วน


ด้านภรรยานายเกริกพันธุ์ เล่าว่า สามีเป็นคนอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ วันหนึ่งเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ตนหนีจากบ้านไปอยู่ที่อื่นมา 2 วันแล้ว เหลือแต่สามีอยู่กับลูกสาว 2 คน เพราะกลัวสามีจะมาทำร้ายตน


โดยตอนนี้ยังเป็นปริศนาว่า กระสุนที่ขาของนายเกริกพันธุ์ ใครเป็นคนยิงกันแน่ เพราะทางญาติที่ถูกข่มขู่ยืนยันว่า ไม่ได้ยิงและอยู่ระหว่างหาที่กำบังในบ้าน ส่วนตำรวจ 3 นายที่มาระงับเหตุก็ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่า ไม่ได้ยิงเช่นกัน ทำให้ตำรวจได้นำตัว ญาติไปตรวจว่า พบเขม่าดินปืนที่มือหรือไม่ และเตรียมตรวจสอบหัวกระสุนที่ขาของผู้ก่อเหตุว่า เป็นขนาดใด เพื่อนำมาเปรียบเทียบ


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าตรวจสอบรถตำรวจสายตรวจอีกครั้ง เพื่อดูวิถีกระสุน และร่องรอยการถูกยิง โดยพบว่ารอยกระสุนที่ยิงเข้ามาในรถตำรวจนั้น เป็นกระสุนปืนที่ยิงมาจากข้างนอก แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอาวุธปืนชนิดได เพราะไม่พบหัวกระสุน แต่คาดว่าเป็นอาวุธปืนยาว


ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ไล่ดูกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายชิงรถตำรวจหลบหนี พบว่าขณะที่ขับรถผ่านกล้องยังมี รถกระบะสีดำ ขับไล่ตามหลังมา แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือไม่