พ่อลั่น ดำเนินคดีถึงที่สุด! จับลูกชายคลั่งยาเผาบ้านนอนคุก ชาวบ้านโล่ง หลังนอนผวาทุกคืน

โล่งอกทั้งหมู่บ้าน ไอ้นุ หนุ่มคลั่งยาอาละวาด เจ้าของวลี “ชีวิตนี้ขอมีความสุขกับยาบ้า” หลังก่อเหตุเผาบ้านพร้อมรถจยย.วอด ขณะที่ชาวบ้านและพ่อรู้สึกโล่งอก ถูกจับดำเนินคดีนอนคุกชั่วคราว พ่อฯ ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุดข้อหาวางเพลิง ทำลายทรัพย์สินและขายทรัพย์สินในบ้าน



วันนี้ (15 ต.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายภานุ อายุ 24 ปี หรือ นุ หนุ่มคลั่งยาอาละวาดเผาบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่หวิดวอดทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ที่บ้าน หมู่ 4 บ้านคำสง่า ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี



หลังเกิดเหตุนายประสิทธิชัย บุดดา นายกอบต.นาคำ ได้นำรถดับเพลิงเข้าไปสกัดเพลิงเอาไว้ได้ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง แต่ทรัพย์สินรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ใหม่เอี่ยม ราคา 70,000 บาท ถูกนายนุ คลั่งอาละวาดเผาวอดทั้งคัน และที่นอนก็ถูกเผาวอด หลังก่อเหตุนายนุได้เดินไปทุ่งนาจนผู้ใหญ่บ้านไปเกลี้ยกล่อมสุดท้ายจึงยอมแต่โดยดี



โดยเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุที่ต้องเผาเพราะไม่รู้จะมีทุกข์ไปทำไม ชีวิตนี้ขอความสุขกับยาบ้าเท่านั้น และบางครั้งก็อยากมีเมียกับคนอื่นเขาบ้าง ขณะที่นายอุทิศ วิเศษภักดี อายุ 35 ปี เจ้าของบ้านเพิ่งเดินทางมาจากจ.ระยองเ พื่อมาเยี่ยมพ่อถึงกับช็อกเพราะน้องชายคนละแม่ และเป็นลูกติดเมียใหม่ของพ่อเผาบ้านเกือบวอดทั้งหลัง และก็ไม่ยอมไปแจ้งความดำเนินคดีทันที



ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายอุบล ปะโคเคติ อายุ 66 ปี เพื่อนบ้านที่มีอยู่บ้านติดใจ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ระทึกมาก เพราะนายนุ โวยวายก่อนจะเผาบ้าน พวกเราก็ตกใจกลัวไฟไหม้ลามมาบ้านที่อยู่ติดกัน ชาวบ้านก็หาน้ำใส่ถังมาสาดใส่ และโชคยังดีที่รถดับเพลิงของอบต.นาคำมาช่วยดับไฟไว้ได้ทัน



ที่ผ่านมาพากันนอนไม่หลับทุกข์ใจอย่างมาก กลางคืนนายนุจะทุบบ้านตีสังกะสีร้องโวยวายทั้งคืน ตนเองอยู่กับภรรยาแค่ 2 คนมีบ้านติดกันด้วย พากันผวาหนัก กลัวมันคลั่งยาแล้วบุกบ้าน ก็รู้สึกโล่งใจระดับหนึ่ง แต่ก็ห่วงไม่รู้มันจะออกมาวันไหน อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเด็ดขาดและรักษาให้หายขาดด้วย



ขณะที่นายสมนึก อายุ 58 ปี พ่อของนายนุ บอกว่า นายนุเป็นลูกชายติดภรรยาใหม่ ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่ 2 ขวบ เป็นคนหน้าตาดี ขยันทำงาน พ่อไปทำงานที่ไหนก็ไปด้วย ถือว่าเป็นเด็กขยันทำงาน แม้จะเป็นลูกเลี้ยงแต่ตนเองก็รักเหมือนลูก แต่เขามาติดยาเมื่อ 3 ปี หลังจากกลับมาจากทำงานภาคใต้ เริ่มเสพยาหนักๆ เข้า ตัวแม่เขาก็อยู่ไม่ได้ต้องหนีไปทำงานต่างจังหวัด ชาวบ้านใกล้เคียงก็อยู่ไม่ได้ อย่างลุงที่มีบ้านอยู่ติดกันต้องหนีไปนอนบ้านญาติ เพราะกลัวนายนุอาละวาด ส่วนตัวพ่อเองเองก็อยู่ด้วยไม่ได้ ต้องหนีไปทำงานอบต.เพราะตนเองทำงานกู้ชีพด้วย ทุกวันต้องหาเก็บของเก่าไปขายหาเงินให้นายนุวันละ 200-300 บาท



ขนาดนั้นยังทำให้เขาไม่พอใจ ขอเงินทุกวัน วันไหนไม่ได้เงินก็จะโวยวาย ทุบตู้เย็น เครื่องซักผ้า พัดลม จยย.เก่าที่ตนเองซื้อมาแล้วจะไปขายต่อก็ทุบทำลายจนพังหมด ตนก็กลัวโดนฆ่าก็หนีไปนอนที่อื่น



ก่อนเกิดเหตุตนเองเอารถจยย.ไปไว้บ้านเพื่อนญาติจะไปซื้อหัวฉีดมาซ่อมให้ลูก นายนุถามหาเอารถจยย.จึงจูงไปให้ จากนั้นก็ได้ยินชาวบ้านว่าลูกเผาบ้านแล้ว ตอนนี้นายอุทิศ หรือนายแมน ซึ่งเป็นลูกชายและเจ้าของบ้านก็ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้วในข้อหา วางเพลิง ทำลายทรัพย์สิน และขายทรัพย์สินภายในบ้าน

ส่วนชาวบ้านก็โล่งอก ตำรวจจับไปแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็อุ่นใจได้ระดับหนึ่งจะได้นอนหลับสนิท แต่ก็คิดไม่ตกเหมือนกันว่าถ้าออกมาแล้วจะทำอย่างไรต่อ กลัวมันคลั่งยาแล้วจะฆ่าพ่อเอา