เลือกตั้งและการเมือง

‘เทพ โพธิ์งาม’ ไลฟ์เดือดด่า ‘โน้ส อุดม’ การศึกษาสูงแต่คำพูดต่ำ ‘เดี่ยว 13’ แซะนายกฯ อัดทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง

โดย petchpawee_k

15 ต.ค. 2565

1K views

เทพ โพธิ์งาม ไลฟ์เดือดด่า ‘โน้ส อุดม’ การศึกษาไม่ช่วยอะไร ปมดรามา ‘เดี่ยว 13’ แซะนายกฯ อัดทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ด้าน อนุชา ชี้ ‘เดี่ยว 13’ วิจารณ์เกินเลย หลายส่วนไม่เหมาะสม

เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปรากฏการณ์การวิพากษ์วิจารย์การทำงานของนายกรัฐมนตรี ในเดี่ยว 13 ว่า เป็นธรรมดาในเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกันเสมอ นี่คือระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม


ส่วนรัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า หากเป็นคำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมาไม่ประกอบด้วยอคติ เอาสนุกอย่างเดียว ก็คิดว่าไม่มีปัญหา แต่หากคำวิจารณ์นั้น ประกอบด้วยอคติ และใส่เจตคติบางอย่าง ก็ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลนย่อมเป็นไปได้ เพราะเป็นศิลปิน ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นเซเลบและสังคมติดตามให้ความสนใจ โดยเรื่องนี้ ส่วนมากศิลปินจะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ก็ต้องไปพิจารณาว่าอะไรเกิดขึ้นอย่างไร แต่สิ่งที่ตนกล่าวไป ทุกคนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ เป็นเรื่องของประชาธิปไตย

ส่วนกรณีที่โน๊ต อุดม มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเดี่ยว 13 มีเจตนาบริสุทธิ์หรือติดตลกอย่างที่ว่าหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า มีหลายส่วนที่ตนคิดว่าไม่เหมาะสม ในฐานะที่เรามีรัฐบาล มีผู้นำบางอย่างคิดว่าก็เกินเลยไปบ้าง

ส่วนจะมีการดำเนินคดีหรือให้ฝ่ายกฎหมายติดตามหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ และไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีการดูเดี่ยว 13 หรือยัง แต่ส่วนตัวได้มีการดูคร่าวๆ นิดหน่อย และเห็นในของส่วนกระแสวิเคราะห์ของสังคมที่แบ่งกันเป็นฝักเป็นฝ่าย เป็นกระแสวิจารณ์ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดา


เมื่อถามว่าได้ดูแล้วรู้สึกขัดหูหรือไม่ นายอนุชา ขอไม่ลงในรายละเอียด ส่วนที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีในลักษณะเสียดสีคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า "เมื่อเป็นศิลปินตนบอกแล้ว เมื่อก่อนก็ไม่มีใครเขามาทำแบบนี้ เพราะศิลปินเป็นผู้ที่สามารถ ทำให้สังคมคิดเห็นในมุมมองไปได้หลายอย่าง เพราะศิลปินเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่ต้องระมัดระวัง"


เมื่อถามว่าโน๊ต อุดม ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ในหลายรัฐบาล ตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น นายอนุชา กล่าวว่า ค่อนข้างที่จะไม่เหมือนกัน ตนว่า การวิพากษ์วิจารณ์ในระบบธรรมดา ทุกคนก็เห็นได้ว่าต่างกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร หากเปิดใจเป็นธรรมเราก็จะเห็น สื่อก็เห็นว่า การวิจารณ์อาจมีความแตกต่างกันบ้าง หากจะบอกว่าเหมือน คงไม่ใช่

--------------------------------------------------------------

'ศิธา' แนะรัฐบาลต้องใจกว้างรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน


ด้านนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยช กล่าวถึงกระแสเรื่องนี้ว่า  หลักประชาธิปไตยต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ ผู้มีอำนาจได้ และผู้มีอำนาจเองก็ต้องใจกว้างที่จะรับฟัง ซึ่งกว้างก็ต้องกว้างจริงๆ ไม่ใช่กว้างแบบทะเลแล้วเค็ม แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้พูดอะไรแต่สั่งให้ลูกน้องไปแจ้งความดำเนินคดีแบบนี้ก็ไม่ได้

ไปไล่บี้เขา เกิดร้อยมันจะเข้าข่ายที่เรียกว่าปากสิบเกิดร้อยปากร้อยเกิดพัน แล้วยิ่งปัจจุบันเป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากคุณคิดว่าจะเอาข้อกฎหมายไปปิดปากประชาชนไม่ประชาชนไม่พูด มันจะไม่ใช่แค่ปากสิบแล้วเกิดร้อย น่าจะเป็นปากสิบแล้วเกิดหมื่น เพราะตอนนี้ดูจากเทรนด์ทวิตเตอร์ แล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องระวัง ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูด เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกรณีศิลปิน4คนที่ไปร้องเพลงวิจารณ์รัฐบาลแล้วถูกดำเนินคดี ซึ่งหากคุณโน้สจะถูกดำเนินคดี รวมไปถึงการดำเนินคดีกับ บุคคลที่ประชาชนชื่นชอบ อยากให้รัฐบาลคิดใหม่ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะเสียเปรียบและสู้เขาไม่ได้


ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ระบุว่า เรื่องแรกต้องมองในแง่บวก มันเป็นมิติของการสื่อสารทางการเมือง ปกติแล้วการเดี่ยวไมโครโฟนของโน้ส อุดม เขาใช้ความเห็นทางการเมืองมาเป็นองค์ประกอบในการแสดงความคิดเห็นมาตลอดทุกรัฐบาล มองแล้วเหมือนเป็นสื่อประเภทหนึ่ง  ดังนั้นสิทธิของการวิพากษ์วิจารณ์ จึงเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะนำความเห็นและข้อเท็จจริงเหล่านั้นมาวิพากษ์วิจารณ์  


ยิ่งไปกว่าการแสดงความคิดเห็นของ โน้ส อุดมมันสะท้อนความคิดของคนชั้นกลางได้อย่างดีมาก ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับฟัง ส่วนเรื่องของความเห็นต่างแบ่งเป็น 2 ฝ่ายถือเป็นเรื่องปกติในระบบประชาธิปไตย แต่มันต้องสู้กันด้วยเหตุด้วยผลไม่ใช่สู้กันด้วยคดีความ หรือจับกันเข้าคุกเข้าตาราง อันนี้จะกลายเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ และส่วนตัวก็ได้รับฟังเดี่ยวไมโครโฟนของ โน้ส อุดม แล้วก็ไม่รู้สึกว่ามีถ้อยคำที่รุนแรงแต่อย่างใด


เช่นเดียวกับ  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล  บอกว่า  มองว่าเป็นเรื่องปกติ หากอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ประชาชนสามารถวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ ซึ่งตามบริบทของรัฐบาลประชาธิปไตย บุคคลที่ถูกกล่าวถึงก็เพียงรับคำแนะนำไปแก้ไข แต่พอเป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ อาจจะไม่คุ้นชินกับประเพณีความเป็นประชาธิปไตย จากการที่ตนติดตามการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน นายอุดมได้พูดถึงรัฐบาลทุกยุค ทุกสมัย และนำเรื่องจริงในสังคมมาสะท้อน โดยการแสดงเดี่ยว 13 นายอุดมก็ยังแสดงเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือรัฐบาล

นายณัฐชา มองว่า สาเหตุที่รอบนี้มีดราม่ามากกว่าทุกครั้ง เป็นเพราะรัฐบาลมีกองกำลัง มีความพยายามใช้ IO หรือกองกำลังที่คอยชื่นชม สรรเสริญรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา คอยที่จะปกป้องรัฐบาลแบบผิดๆ คอยที่จะอวยและไม่ยอมรับสถานการณ์จริง ก็เลยมีการปั่นกระแส ปั่นแฮชแท็กในทวิตเตอร์กันขึ้นมาภายในชั่วข้ามคืน

---------------------------------------------------


ด้าน ‘ป๋าเทพ’ เทพ โพธิ์งาม ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นของตัวเองต่อกรณีนี้ ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ระบุว่า โน้ส อุดม ไม่ควรพูดจาให้ร้ายรัฐบาลเช่นนี้ เพราะพูดไปก็ทำอะไรไม่ได้อย่างเขา แถมคำที่กล่าวมาก็มีแต่เรื่องเดิมๆ ที่ใครๆ ก็พูดกัน ถ้าจะทำแบบนี้ ไปอยู่กับณัฐวุฒิเลยดีกว่าไหม ?


นอกจากนี้ ป๋าเทพยังระบุด้วยว่า คนเป็นดารานักแสดงควรจะวางตัวเป็นกลาง และตั้งคำถามว่าที่ โน้ส อุดม ทำเช่นนี้เป็นเพราะตัวเองได้ผลประโยชน์ใช่ไหม


“ไอ้นี่พูดอะไรของมันก็ไม่รู้ จะบ้าหรือเปล่า เมื่อก่อนก็รู้จักกับมัน มันก็ปั้นรูปให้ ไม่รู้หรอกว่าเป็นคนแบบนี้ การศึกษาช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ เหรอวะไอ้โน้ส มึงพูดอะไรของมึงออกมา เหมือนไม่มีความคิดเลยเหรอวะ มีความรู้ขนาดนั้นแล้ว ไปติ ไปว่าเขา กูถามว่ามึงทำอะไรได้ดีกว่าผู้นำเขาไหม ไปพูดถึงเขาอย่างนั้น สิ่งที่พูดก็เหมือนที่เขาพูดกันเลย ตกลงมึงเอามุกเก่าๆ เขามาใช้เหรอ มึงต้องไปอยู่กับณัฐวุฒิโน่น อารมณ์เดียวกัน"

คุณอาจสนใจ

Related News