สังคม
น้ำเหนือ-น้ำหนุน ทะลักชุมชนลุ่มเจ้าพระยาอ่วม เตือนรับมือฝนเพิ่ม 14-15 ต.ค. นี้
โดย panwilai_c
13 ต.ค. 2565
166 views
สถานการณ์อุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยาในตอนนี้ พื้นที่บริเวณปลายน้ำเริ่มได้รับผลกระทบกันแล้ว โดยเฉพาะที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลที่หนุนขึ้นมารวมกับน้ำเหนือ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนจะมีฝนตกเพิ่มลงมาอีกในวันที่ 14-15 ทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,094 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุอ่างรวมกัน โดยเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก งดการระบายน้ำตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ด้านเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปรับการระบายขึ้นมาเล็กน้อย 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนอีก 2 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่มีน้ำเกินความจุอ่างฯ ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 952 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 101 ของความจุอ่างฯ และที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำ 1,052 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 110 ของความจุอ่างฯ
กรมชลประทานได้ปรับการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เสริมศักยภาพในการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด หลังน้ำเหนือเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง
ขณะที่ จิสด้า เผยข้อมูลจากดาวเทียมเปลยาด แสดงให้เห็นพื้นที่น้ำท่วมขังในเขต ตำบลป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอผักไห่ และ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทุ่งป่าโมก ทุ่งบางบาล และทุ่งบางกุ้ง รวมถึงพื้นที่บ้านเรือนประชาชนริมน้ำ และพื้นที่เกษตรกรรม
นอกจากนี้น้ำเหนือที่หลากลงมาเป็นปริมาณมากเริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ปลายน้ำอย่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงเช่นกัน
โดยที่ซอยพิบูลสงคราม 15 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หลังจากเขื่อนกั้นน้ำคลองตะนาวสีแตก น้ำได้ทะลักเข้าท่วมชุมชน ได้รับความเสียหายทั้งชุมชน เนื่องจากบ้านแต่ละหลังเก็บของไม่ทัน ส่งผลให้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ลอยน้ำหมด
ชาวบ้านในชุมชน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ที่ผ่านมา เขื่อนกั้นน้ำคลองบางตะนาวสีแตก ซึ่งใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้นระดับน้ำก็ท่วมถึงเอว โดยตอนนี้ทั้งชุมชนก็ยังคงอยู่กับน้ำที่ทะลักเข้ามาต่อเนื่อง
ขณะที่ชุมชนสีคาม ในซอยสามเสน 19 ในเขตกรุงเทพมหานคร หนึ่งในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ถูกน้ำจากแม่น้ำเอ่อเข้าท่วมชุมชนและร้านค้า ซึ่งมักถูกน้ำท่วมทุกครั้งในช่วงน้ำทะเลหนุน
ส่วน 2 ฝั่ง ริมน้ำเจ้าพระยาพบว่า มีน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ล้นกระสอบทราย มีเพียงจุดที่รั่ว น้ำซึมเข้าชุมชนย่านคลองสานและบางพลัด โดย ทางกรุงเทพมหนคร จะออกประกาศเตือนอีกครั้ง ก่อนวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ที่ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้า
ส่วนความคืบหน้าการซ่อมแซมคันดินกั้นน้ำที่หมู่ที่ 3 ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่ถูกน้ำพัดพังทลายตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ล่าสุดมีความเสียหายเพิ่มขึ้นจาก 50 เมตรเป็น 60 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ได้นำแท่งปูนเสาเข็มขนาดใหญ่มาวางกั้นชะลอกระแสน้ำที่ไหลเข้าสู่คลองชลประทานตลอดระยะทาง 1.5 กิโลเมตร พร้อมนำบิ๊กแบ็คเข้าเตรียมอุดพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มซ่อมแซมได้ในวันพรุ่งนี้
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับที่ 3 เรื่อง "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง" คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลให้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น ตั้งแต่พรุ่งนี้ (14 ต.ค. 65)
โดยอิทธิพลนี้จะทำให้ 12 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักบางแห่ง คือที่ จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธาน