สังคม

เดือด! ‘พ่อใหญ่’ ฮึ่มทุบโต๊ะ หลังสาวร้องเป็นหม้ายขันหมาก โวยลูกชายถูกหลอกเอาเงินสินสอด

โดย paweena_c

12 ต.ค. 2565

118 views

เสียตัวแล้วยังเสียหน้า! สาวร้องเป็นหม้ายขันหมาก ว่าที่เจ้าบ่าว” เทงานหมั้น วางมัดจำ 2 พันบาท แล้วหนีหาย ด้าน “พ่อว่าที่เจ้าบ่าว” ฮึ่ม เลือดขึ้นหน้าทุบโต๊ะเดือด โวยใช้ไม่ได้ อยู่กันแค่ 2 วันจะให้ลูกชายโอนโฉนดที่ดินให้ หวังเอาเงินค่าสินสอด แถมปิดบังมีลูกติดอีก 3 คน


จากกรณีที่นางสาวนิ้ง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาวอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ว่าถูกชายหนุ่มชื่อนายโหน่ง (นามสมมุติ)อายุ 33 ปี หลอกว่าจะมาหมั้น แต่สุดท้ายโดนเทหนีหายหน้าไป ติดต่อไม่ได้ โดยผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นางสาวนิ้ง และแม่ พร้อมกับโชว์บันทึกสัญญาที่เขียนเอาไว้ว่า "การสู่ขอหมั้นหมายแต่งงานระหว่างนายโหน่ง และนางสาวนิ้ง สู่ขอเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ค่าสินสอด 5 หมื่นบาท ทอง 1 บาท แต่งเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยมีพยานลงชื่อเอาไว้เรียบร้อยเป็นหลักฐาน 6 คน

นางสาวนิ้ง บอกว่า เธอเองรู้จักกับนายโหน่งเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา รู้จักเพราะเพื่อนแนะนำในวงเหล้า เพราะเธอบอกว่าเธออกหักมาใหม่ๆ จากนั้นก็ไปบ้านผู้ชายแล้วเพศสัมพันธ์ ยอมรับว่าเสียตัวให้นายโหน่งแล้ว แล้วก็ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน โดยฝ่ายชายบอกว่าจะให้พ่อแม่มาสู่ขอทันทีและให้ลาออกจากงานมาอยู่ช่วยงานที่บ้าน เธอเองจึงลาออกจากงานที่ห้างกะทันหันไปอยู่กับครอบครัวเขาเลย ไปทำทุกอย่าง ทั้งล้างถ้วยล้างชาม ทำแบบที่ผู้หญิงทำกัน เป็นแม่บ้านศรีเรือน และว่าที่ลูกสะใภ้ที่ดี จากนั้นแม่ฝ่ายหญิงก็บอกว่า อยู่ด้วยกันแล้วก็มาสู่ขอแต่งงานตามประเภณีจะดีกว่า

ต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย มาตกลงกันว่าจะมีงานแต่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า เป็นจำนวนเงินค่าสินสอด 5 หมื่นบาท และทอง 1 บาท และตกลงทำสัญญากันเป็นอย่างดี โดยวันที่คุยกันบอกว่าจะจ่ายเงินในวันที่หมั้นหมายไว้ก่อน 1 หมื่นบาท แต่พ่อแม่ฝ่ายชายเอาเงินไว้แค่ 2 พัน ทำให้ตกลงกันไม่ได้ จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

ซึ่งทำให้นิ้งรู้สึกเสียใจที่ว่าที่สามีและฝ่ายพ่อแม่เขามาทำแบบนี้ ปล่อยนิ้งทิ้งไว้เป็นหม้ายขันหมาก นิ้งบอกตนรักผู้ชายคนนี้มาก วาดฝันว่าถ้าแต่งงานกันแล้ว จะไปทำงานเมืองนอกเก็บเงิน ตั้งหลักปักฐานจบไว้ที่ผู้ชายคนนี้คนเดียว ตอนนี้อยากให้ฝ่ายชายกลับมา พร้อมจะแต่งงานด้วยเหมือนเดิม แต่หากไม่มาอยากให้ติดต่อมารับผิดชอบ ที่เธอเองก็เสียตัวให้กับฝ่ายชายไปแล้ว ซึ่งรู้มาว่าฝ่ายชายถูกพ่อแม่บังคับจนต้องหนี

แม่ของนิ้งบอกว่า ครอบครัวเราดีใจที่ลูกสาวจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาซะที ยอมรับว่าลูกสาวเคยมีสามีมาแล้ว และก็เลิกรากันไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่ลูกสาวของตนถูกเทงานหมั้น ก็รู้สึกอายคนในหมู่บ้าน อยากให้ฝ่ายชายติดต่อมารับผิดชอบบ้าง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายสุทิน อายุ 57 ปี พ่อของเจ้าบ่าว บอกว่า นิ้งว่าที่ลูกสะใภ้เคยมาอยู่บ้านตน เมื่อปลายเดือน กันยายน ที่ผ่านมา เพราะเพื่อนชวนมากินเหล้าที่บ้านตน ซึ่งหลังจากนั้น ฝ่ายหญิงก็เดินมาบอกว่าสวัสดีค่ะพ่อ เราก็ถามว่ามาไงไปไง เขาก็บอกว่ามากับเพื่อนค่ะ จากนั้นก็ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรก็เดินไปนอนเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนของลูกชาย คงไม่มีอะไร

พอมาตอนเช้าตื่นขึ้นมา ก็เห็นนิ้งนอนที่บ้านกับลูกชาย จากนั้นก็เห็นเขาเดินไปล้างถ้วยล้างชาม ช่วยภรรยาตนทำกับข้าว

นายสุทิน บอกว่า ตนเองเป็นห่วงกลัวสามีนิ้งจะมาตาม เพราะตนเองไปสืบรู้มาว่านิ้งเพิ่งเลิกกับสามี และมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่พออยู่บ้านตนได้ 2 วัน นิ้งก็บอกว่า พ่อๆ ไปบ้านหนูหน่อย จะได้รู้จักให้รู้จักกับพ่อแม่ทางบ้าน พอไปถึงที่บ้านปรากฏว่า ทางโน้นเขาจัดงานรับรอเลย บอกว่าจะได้ตกลงพิธีงานแต่งกันเลย เราก็สะอึกใจ แต่ก็คิดในใจว่า ถ้าลูกรักกันก็พร้อมไม่มีปัญหา แต่อีกฝั่งเรียกค่าสินสอด 70,000 - 80,000 บาท วันนั้นตนมีเงินแค่ 2,000 บาท จึงมัดจำเอาไว้ก่อน

แต่พอมารู้ประวัติทีหลังว่าฝ่ายหญิงโกหกผมว่าไม่มีลูก แต่ความจริงแล้วตนรู้มาว่าเขามีลูกแล้ว 3 คน และว่าลูกสะใภ้คนนี้ แผนสูง พอได้กับลูกชายก็บังคับให้เอาโฉนดที่ดินที่ตนเองแบ่งให้ลูกชาย หวังจะเอาไปไปจำนองเอาเงินมาเป็นค่าสินสอด

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อให้นิ้ง มาพูดคุยกับครอบครัวของฝ่ายชาย โดย นางสาวนิ้ง และแม่ ก็ได้มาบ้านของฝ่ายชาย และนิ้งก็บอกว่าหนูอยากจะมาเรียกร้องค่าเสียหายของหนู เพราะหนูนอนกับลูกชายพ่อแล้ว ขณะที่นายสุทิน พ่อว่าที่เจ้าบ่าว พอมานั่งที่โต๊ะ ก็โมโห เดือด พร้อมทุบโต๊ะต่อหน้านางสาวนิ้ง แล้วบอกว่า มาจะเอาเท่าไหร่ นางสาวนิ้งก็บอกว่า ก็อยากได้ตามสัญญาคือ 50,000 บาท แต่ปรากฏว่านายสุทินเลือดขึ้นหน้า บอกว่า กูจะปรับไหมมึงแทน เพราะมานอนที่บ้าน มาอ่อยลูกชายให้รักแล้วมีอะไรกัน จะอยู่แค่ 2 วันทำดีเอาหน้า แล้วจะมาบอกให้ไปหมั้นและแต่งงาน ให้ 2,000 บาท มัดจำเอาไว้ก็ไม่เอาอยากได้เป็นหมื่น แบบนี้ใช้ไม่ได้ วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่อง

หลังจากนั้น นางสาวนิ้งและแม่ ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ออกไปและบอกว่าไปเจอกันที่โรงพักจะแจ้งความ ก่อนที่จะถูกว่าที่พ่อปู่และแม่ย่าโห่ไล่ออกไปจากบ้านทันที


คุณอาจสนใจ