กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญ พระบรมรูป ในหลวง ร.9 ประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์


วันนี้ เวลา 16 นาฬิกา 33 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต ทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์


ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้น โดยสำนักช่างสิบหมู่กรมศิลปากร ได้ดำเนินการปั้นต้นแบบพระบรมรูป ขนาด 4 เท่าพระองค์จริง หรือ ความสูง 7.41 เมตร ประดิษฐานเหนือแท่นหินอ่อนแกะสลักเป็นฐานบัว รูปทรงสี่เหลี่ยมย่อมุม พร้อมอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. หล่อด้วยโลหะสำริด ประดิษฐานด้านหน้าของแท่น รองรับด้วยฐานหินอ่อนรูปทรงแปดเหลี่ยม พร้อมประดับแผ่นคำจารึก หล่อด้วยโลหะสำริดแปดแผ่นโดยรอบ และแท่นหินอ่อนพร้อมพานพุ่ม หล่อด้วยโลหะสำริด ประดับเป็นเครื่องสักการะทั้งสี่ทิศ มีความสูงรวมฐาน 19.45 เมตร สามารถมองเห็นได้จากทุกมุม นับเป็นหัวใจและศูนย์กลาง ของอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ


ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งพระราชหฤทัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ แห่งนี้ เดิมคือพื้นที่ "สนามม้านางเลิ้ง" ซึ่งเป็นที่ดินในพระปรมาภิไธย ที่พระราชทานให้เป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนอย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่ 279 ไร่ เป็นแหล่งเรียนรู้แนวพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ ผ่านองค์ความรู้ เรื่อง "ป่าและน้ำ"


ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ และเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้พระราชทานไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของมนุษย์กับธรรมชาติ สะท้อนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งยังออกแบบให้เป็นพื้นที่รองรับน้ำ หรือแก้มลิงแห่งใหม่ ในยามวิกฤตจากอุทกภัยอีกแห่งของกรุงเทพมหานคร พร้อมต้นไม้ใหญ่ประมาณ 4,500 ต้น คล้ายคลึงป่าธรรมชาติ ที่เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งเป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567


โดยในวันที่ 13 ตุลาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้