อาชญากรรม

'น้าอดีตตำรวจกราดยิง' ยกมือไหว้ขอโทษผ่านสื่อ รับหลานติดยา เคยขู่ฆ่าทั้งโรงพัก

โดย JitrarutP

7 ต.ค. 2565

1.5K views

น้าของ “อดีตตำรวจ” ผู้ก่อเหตุกราดยิง ยกมือไหว้ผ่านสื่อ ขอโทษผู้สูญเสีย รับหลานติดยาเสพติดจริง เคยขู่ฆ่าทั้งโรงพักเพราะโดนไล่ออกจากราชการ ด้าน “แพรรี่ ไพรวัลย์” รับ ตกใจบทสัมภาษณ์แม่ผู้ก่อเหตุ สะท้อนสังคมล้มเหลว

กรณีเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก น้าของผู้ก่อเหตุได้เปิดเผยกับทีมข่าว โดยยอมรับว่าหลานชายติดยาเสพติดจริง และเคยขู่ฆ่าทั้ง สน. เพราะโดนไล่ออกจากราชการ ทันทีที่เจอหน้า น้าผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ผ่านกล้องทันที พร้อมบอกว่า “กราบขอโทษทุกคนที่ต้องสูญเสีย”

พร้อมยอมรับว่า ผู้ก่อเหตุเสพยาเสพติดมานานแล้ว แต่เวลากลับมาที่บ้านไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวควบคุมตัวเองไม่ได้ให้เห็น แต่ที่ก่อเหตุเชื่อว่าน่าจะมีความเครียดเรื่องที่ถูกให้ออกจากราชการ เพราะช่วงที่ถูกให้ออกจากราชการ จนถึงตอนนี้ทุกคนในครอบครัวก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแม่ของผู้ก่อเหตุสภาพจิตใจแย่มาก จะเป็นลมอยู่ตลอด และไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับสื่อ

โดยผู้ก่อเหตุเคยมาพูดกับคนแถวบ้านว่า "จะฆ่าตำรวจทั้งโรงพักเลย เพราะทำให้เขาถูกไล่ออกจากราชการ" ที่ผ่านมาครอบครัวพยายามบอกให้เลิกเสพยา เพราะกลัวจะมีอาการหลอน และไปก่อเหตุ ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้ที่ลงมือเพราะฤทธิ์ยาเสพติด

ส่วนแฟนสาวที่เสียชีวิตในบ้านเป็นแฟนใหม่ที่คบหากันได้ 2-3 ปี และเด็กชายที่โดนยิงก็ไม่ใช่ลูกของผู้ก่อเหตุ แต่เป็นลูกติดของแฟนสาว

ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเมื่อวานนี้ว่า แม่รู้ว่าตลอดว่าลูกชายเสพยาเสพติดตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่ สภ.นาวัง เคยห้ามและขอให้เลิกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เหตุความสูญเสียครั้งนี้แม่ก็เสียใจ

ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า "ดิฉันฟังบทสัมภาษณ์ของคนที่เป็นแม่ฆาตกร ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่งแล้วดิฉันตกใจมาก ตกใจสองเรื่องค่ะ เรื่องแรกที่ดิฉันตกใจ คือ เรื่องที่แม่ของฆาตกรพูดเหมือนกับว่า ตนเองรู้เห็นพฤติกรรม การเสพยาเสพติดของลูกชายมาโดยตลอด ทั้งยังให้สัมภาษณ์ประหนึ่งว่า พฤติกรรมเช่นนั้น เป็นเรื่องปกติ เราอยู่ในสังคมที่คนในครอบครัวรู้เห็นและเมินเฉยกับการเสพยาเสพติดของสมาชิกในครอบครัว เรื่องนี้น่ากลัวมาก

ส่วนตกใจเรื่องที่สอง ดิฉันตกใจที่แม่ของฆาตกรมองว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเวรกรรม เรื่องของอดีตชาติที่ฆาตกรกับเหยื่อเคยทำร่วมกันมาเมื่อชาติที่แล้ว ดังนั้นมันควรเป็นสิ่งที่เราต้องอโหสิกรรมหรือให้อภัยกัน วิธีคิดเช่นนี้เลวร้ายมาก

กับกรณีนี้ มันสะท้อนได้ชัดเลยว่า สังคมของเรากำลังล้มเหลวมาก สถาบันครอบครัวล้มเหลว การกล่อมเกลาและการปลูกฝังเอาใจใส่สมาชิกในครอบครัวถูกละเลย ที่สำคัญความเชื่อทางศาสนา (บวกกับความเข้าใจผิด) มีส่วนทำให้คนมองข้ามปัญหาและปัดความรับผิดชอบต่อความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับสังคม”

คุณอาจสนใจ