“บิ๊กป้อม” ยิ้มเขิน เจอสาวรุมหอมแก้ม ระหว่างตรวจน้ำท่วมชัยนาท มีชาวบ้านตะโกนเชียร์ให้ลุงป้อม เป็นผู้นำประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำจังหวัดชัยนาท อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังหมดหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยจุดแรกเดินทาง ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึง แกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ อย่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาทร่วมคณะในการลงพื้นที่ครั้งนี้



ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึง ก็มีชาวบ้าน ซึ่งมารอท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา เพื่อชูป้ายให้กำลังใจ อาทิ “คนชัยนาทรักลุงป้อมจากใจ”  FC ลุงป้อม” เป็นกำลังใจให้ลุงป้อมครับ”  “ลุงป้อมจ๋ายิ้มหน่อย” พร้อมตะโกนให้ “ลุงป้อมสู้” ก่อนจะมีแฟนคลับหลายคน เข้าไปหอมแก้ม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะกล่าวสั้นๆ ว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ



*-จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  อธิบดีกรมชลประทาน  อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้แทนกระทรวงกลาโหม



พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จากอิทธิพลพายุ “โนรู” ทำให้ฝนตกหนักมากและเกิดน้ำหลากน้ำท่วมขังที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศ รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนป้องกันและรับมือล่วงหน้าโดยการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จำนวน 2 ศูนย์ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี และภาคกลาง จ.ชัยนาท โดยในวันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของศูนย์ฯ ที่ จ.ชัยนาท เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคในการทำงานของศูนย์ฯ



ทั้งนี้ รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยย้ำให้ สทนช.ประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาแผนการปลูกพืชในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ใช้เป็นพื้นที่รับน้ำหลาก เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และเตรียมแผนการส่งน้ำเข้า 10 ทุ่งรับน้ำ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมโดยผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าล่าสุดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในปีนี้ยังน้อยกว่าปี 54 และปี 64 (โดยการระบายน้ำ ณ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 2,643 ลบ.ม. วินาที ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 54 ที่ระบายในอัตรา 3,628 ลบ.ม./วินาที และยังน้อยกว่าปี 64 อัตรา 2,776 ลบ.ม. วินาที แม้ว่าปริมาณฝนปีนี้จะใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2554)



ขณะที่ในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณอำเภอป่าโมก จ.อ่างทอง และ สถานการณ์น้ำแม่น้ำน้อย บริเวณที่ว่าการอำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมลงพื้นที่วัดโบสถ์(ล่าง) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและพบปะให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ด้วย