อาชญากรรม

ฆาตกรรมสยอง! หนุ่มหึงโหด ฆ่าหั่นศพแฟนสาว ฝังใต้ทางด่วน รับเลียนแบบหนัง

โดย passamon_a

2 ต.ค. 2565

426 views

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ร่วมกับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานสมุทรปราการ ควบคุมนำตัว นายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย มาชี้จุดริมถนนประเสริฐมนูกิจ บริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ทิศทางมุ่งหน้ารามอินทรา แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ


สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งจากแม่บ้านของคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักห้องหนึ่ง ได้กลิ่นคาวเลือด และน้ำภายในห้องน้ำถูกเปิดทิ้งไว้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าของคอนโด พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายชาญวิทย์ กับ น.ส.อรนันท์ หรือ พิน อายุ 30 ปี เป็นผู้มาเช่าห้องพักห้องดังกล่าว


ภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพขณะนายชาญวิทย์ เดินออกมาจากลิฟต์ พร้อมถุงขนาดใหญ่ 2 ใบ เดินถือออกประตูเลี้ยวไปทางขวา ซึ่งเป็นที่จอดรถ แต่ไม่พบ น.ส.อรนันท์ เดินออกมาจากห้องแต่อย่างใด


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เปิดประตูเข้าไปก็พบนายชาญวิทย์ นั่งอยู่ภายในห้อง จากการสอบถามก็ ยอมรับว่าก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ และนำชิ้นศพไปฝั่งไว้ที่อื่น จากการตรวจสอบภายในห้องมีพบคราบเลือด และการทำความสะอาดที่พื้นห้องน้ำ และตรวจร่องรอยหาพยานหลักฐานต่าง ๆ และตรวจสอบภายในรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ที่นายชาญวิทย์ ใช้ในการขนศพเพื่อนำไปอำพราง


ก่อนควบคุมตัวนายชาญวิทย์ มาสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ ก่อนจะคุมตัวพาไปชี้จุดที่นำชิ้นส่วนร่าง น.ส.อรนันท์ มาฝัง บริเวณริมถนนประเสริฐมนูกิจ บริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ทิศทางมุ่งหน้ารามอินทรา แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยพบว่ามีดินที่ถูกขุดและกลบใหม่ เจ้าหน้าที่จึงขุดลงไปพบถุงดำหลายใบถูกฝังอยู่ ภายในพบว่าเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ถูกตัดเป็น 7 ส่วน โดยใบแรก เป็นท่อนแขนซ้าย ใบที่สอง ส่วนหัว ใบที่สาม ส่วนขาซ้าย ตั้งแต่หัวเข่า ใบที่สี่ส่วนแขนขวา ข้อศอกลงมา ใบที่ห้า ส่วนขาขวา หัวเข้า ใบที่หก ส่วนลำตัว ต้นคอถึงเอว และใบที่เจ็ด ส่วนท่อนล่าง เอวถึงหัวเข่า


พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต มีความสัมพันธ์กัน และมักจะมาเปิดห้องพักรายวัน ภายในซอยสุขุมวิท 115 อาศัยอยู่ด้วยกัน โดยผู้ก่อเหตุมีความแค้น ไม่พอใจที่ฝ่ายหญิง ไม่เปิดเผยว่าคบหากัน เเละมีความหึงหวงฝ่ายหญิง เกรงว่าจะปันใจให้ชายอื่น จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน เเละลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งฝ่ายชายมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่น เลื่อย มีด ค้อน ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะมีการนัดฝ่ายหญิงมาเจอที่ห้องที่เกิดเหตุ


จนกระทั่งวันที่ 28 ก.ย. ทั้งคู่มีปากเสียงกัน น.ส.อรนันท์ ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยังใจเย็นนอนอยู่กับผู้ตาย ภายในห้องพักหนึ่งคืน จนช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย. ผู้ก่อเหตุได้มีการออกไปด้านนอกห้องพัก และมีการซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพเพิ่มเติม ก่อนจะกลับห้องมา นำร่างของผู้ตายเข้าห้องน้ำ แล้วใช้ทั้งมีด เเละเลื่อยหั่นศพออกเป็น 7 ส่วน และในช่วงเย็นของวันที่ 30 ก.ย. ผู้ก่อเหตุได้นำชิ้นส่วนผู้ตายใส่ถุงนำมาฝังไว้บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช


เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วนการจับกุมครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เเม่บ้านของที่พักแห่งนี้ มีไหวพริบเเละช่างสังเกต เนื่องจากเเม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักที่อยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เเต่เปิดห้องผิด โดยตอนนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก เมื่อเเม่บ้านเข้าห้องไป ก็ได้กลิ่นคาวเลือด เเละในห้องน้ำมีการเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงสงสัยว่าห้องนี้ต้องเกิดเหตุไม่ดี จึงรีบเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในช่วงเช้า ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้อง ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีท่าทีขัดขืน เเละยอมรับกับตำรวจว่าฆ่าเเละหั่นศพแฟนตนเอง เเละนำมาฝังดิน


ซึ่งการก่อเหตุเเละการชำแหละศพ อำพรางซ่อนเร้นศพนี้ ผู้ก่อเหตุยอมรับว่า ได้เเนวทางมาจากการดูภาพยนตร์ฆาตกรรมเเนวสืบสวนสอบสวน ฆ่าหั่นศพของฝรั่ง จึงนำมาเลียนเเบบในการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนวิธีการ คือมีการใช้มีดปลายเเหลมเเทงตามลำตัวของผู้ตายกว่า 10 แผล ส่วนวิธีการหั่นศพ ใช้ขวานที่มีความคมสับตามข้อต่อ ทำให้ชิ้นส่วนศพขาดในทันที ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของทั้งคู่ เคยเป็นเซลล์ขายอสังหาริมทรัพย์ รู้จักสนิทสนมกันมาได้ 2 ปี โดยจะนัดพบเจอกันที่คอนโดที่เกิดเหตุเป็นประจำ


คุณอาจสนใจ

Related News