สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 30 ก.ย.65 จับตาศาลชี้ชะตาประยุทธ์-ทลายแก๊งผลิตแบงก์ปลอม-วอลเลย์ไทยชนะเกาหลี

โดย thichaphat_d

30 ก.ย. 2565

49 views

-นาทีพระธาตุอายุกว่า 500 ปีที่วัดศรีสุพรรณ ถ.วัวลาย จ.เชียงใหม่ สูงกว่าตึก 3 ชั้นล้มโค่นลงมา เสียหายทั้งองค์ และพบพระพุทธรูปโบราณ และวัตถุมงคลเพียบ ชาวบ้านเผยก่อนหน้านี้องค์พระธาตุมีรอยร้าว และช่วงนี้ฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้อุ้มน้ำ จนรับน้ำหนักไม่ไหว เร่งประสานผู้เชี่ยวชาญ - นักโบราณคดีหาสาเหตุ

-เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหา “น้องน้ำเมย” เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 9 เดือนหายตัวไปปริศนาจากบ้านพักใน จ.ลพบุรี วันเกิด ครอบครัวสันนิษฐานลูกอาจพลัดตกแม่น้ำ ที่ห่างจากบ้านไปเพียง 50 เมตร คุณแม่ขึ้นเรือตระเวนหา พร้อมบอกว่า ให้ลูกขึ้นมาหา พ่อแม่รออยู่ ด้านคุณปู่ ไม่เชื่อลูกสาวตกน้ำ ให้น้ำหนักถูกลักพาตัว หรือไสยศาสตร์บังตา

-แพรรี่ ไพรวัลย์ ควง ทนายเกิดผล ร้องสภาทนายความให้ตรวจสอบมรรยาท ทนายธรรมราช หลังเปิดศึกวิวาทะ เหยียดเพศสภาพ – บูลลี่อาการป่วย ย้ำไม่หยุดเอาเรื่องแม้อีกฝ่ายขอโทษ ด้านนายกสภาทนายความ เตรียมตั้งคณะกรรมการพิจารณา หากพบว่าผิดข้อบังคับจริงมีโทษตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือน ไปจนถึงโทษหนักที่สุด คือ ลบชื่อจากการเป็นทนายความ

-ตำรวจภาค 5 ทลายแก๊งปลอมธนบัตรรายใหญ่ที่สุดในรอบ 8 ปี สุดอึ้ง! ใช้แค่ปริ้นเตอร์กับเทียนไข ก็ทำแบงก์ปลอมได้สุดแนบเนียน โพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก แบงก์พัน 10 ใบ ราคา 1,300 บาท ส่งขายให้มิจฉาชีพทั่วไทย พร้อมขยายผลจับหนุ่มตรัง รับสั่งซื้อแบงก์พันปลอมจริง เอาไปใช้จ่ายได้หลายครั้งเลยสั่งเพิ่มเรื่อยๆ ก่อนถูกรวบตัวคาบ้าน

-นักตบสาวไทย ตบรัวๆ เอาชนะ เกาหลีใต้ 3 เซตรวด แบบทิ้งห่าง 25-13, 25-15 และ 25-14 การันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสถิติชนะ 3 แพ้ 1 มี 8 คะแนน ตามเชียร์ต่อแมตช์สุดท้ายของรอบแรก พบ โดมินิกัน ค่ำวันนี้


เรื่องเล่าการเมือง

-วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะสิ้นสุดการเป็นนายกฯหรือไม่ ขณะเดียวกันก็มีการเคลื่อนไหวเตรียมชุมนุมของกลุ่มต่างๆ

เมื่อวาน ศาลรัฐธรรมนูญจึงออกประกาศเพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณศาล เนื้อหาโดยสรุป คือ ตามที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา และลงมติคำร้อง กรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.

ทางหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า อาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น

จึงออกประกาศกำหนดให้พื้นที่ศูนย์ราชการฯ เป็นพื้นที่ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน และห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ

โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่เวลา 19 นาฬิกาของเมื่อวาน (29 กันยายน) จนถึงวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม เวลา 6 นาฬิกา

ขณะที่ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จัดเตรียมกำลังตำรวจไว้ 2 กองร้อย เพื่ออำนวยความสะดวกความปลอดภัยบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีการชุมนุมพื้นที่อื่น มี 2 จุด ได้แก่ กลุ่มของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่บริเวณสกายวอล์กปทุมวัน นัดรวมตัวติดตามคำพิพากษาในเวลา 14 นาฬิกา หาก พล.อ.ประยุทธ์ รอด นัดชุมนุมในเวลา 16 นาฬิกา

และคณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดชุมนุมบริเวณด้านข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ เวลา 17 นาฬิกา



-สำหรับแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะออกมาได้แค่ 2 ทาง

ทางแรก คือ ความเป็น "รัฐมนตรี" ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ เพราะยังดำรงตำแหน่งมาไม่เกิน 8 ปี กับ อีกแนวทาง คือ ความเป็น "รัฐมนตรี" ของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นนายกฯมาครบ 8 ปี แล้ว ซึ่งหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ

ประเด็นสำคัญ คือ ศาลจะพิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งมาครบ 8 ปีหรือยัง

ซึ่งในข้อเท็จจริง คือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม โดยเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557

ต่อมา เป็นนายกฯตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 คือตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ที่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ และต่อมา เป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง 2562

หากนับระยะเวลาตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557 ถึง 24 สิงหาคม 2565 คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีระยะเวลา 8 ปี

แต่ใน 8 ปีนี้ ความเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต่อเนื่องตามที่ฝ่ายผู้ร้องมอง / หรือจะยังไม่ครบ 8 ปี เพราะ ความเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 "ขาดตอน" จากการเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญ 2560 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องรอฟังการวินิจฉัยของศาลในช่วงบ่ายวันนี้



-รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ถึง ทิศทางการเมืองไทย ว่าศาลวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์ ไม่พ้นจากตำแหน่ง พลเอกประยุทธ์ ก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่จะเกิดแรงกระเพื่อมในฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง นำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อที่พลเอกประยุทธ์ จะสามารถทำหน้าที่ได้ไปจนครบวาระ โดยอาจจะไม่มีการยุบสภา ตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง

ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดร.สิริพรรณ มีเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่โอกาสจะจุดติดเป็นไปได้อยาก พรรคฝ่ายค้านอาจจะไม่ออกมาสนับสนุนเพราะต้องการอยู่ในกติกา ไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไข ของการรัฐประหาร และยังหวังผลถึงมีโอกาสชนะเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย

ส่วนถ้าหากศาลตัดสินว่าพลเอกประยุทธ์ไม่รอด มีโอกาสที่พลเอกประวิตรก็จะรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีพรรคการเมือง เพราะมีบทบาทคุมเสียงส่วนใหญ่ ในวุฒิสภา

แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ดร.สิริพรรณ ให้ความสำคัญกับปัญหาสุญญากาศทางการเมือง ที่จะเกิดจาก ร่างกฎหมายเลือกตั้งมากกว่า หากร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่าน การเลือกตั้งก็จะถูกชะลอออกไป โดยไม่มีกติกาใช้ในการเลือกตั้ง สุดท้ายต้องกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง



-ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวานนี้ ก่อนถึงวันตัดสินคดีปมวาระ 8 ปี ยังคงปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหมตามปกติ ซึ่งมีรายงานจากคนใกล้ชิด ว่า ท่านไม่ได้รู้สึกเครียด และบอกพร้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ช่วงเช้า วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำบุญตักบาตรตามปกติเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ก่อนเวลา 09.30 น. จะเดินทางเข้าที่กระทรวงกลาโหมเพื่อปฏิบัติภารกิจในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย ในโอกาส ครบวาระในการปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ช่วงเย็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์

โดยนายอนุทิน ระบุเพียงสั้นๆ ว่าวันนี้ ท่านปลัดเกียรติภูมิ ได้อำลาในโอกาสเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งสีหน้าท่านนายกฯ ก็ยิ้มแย้มดี และบอกว่า ที่เข้าพบ ไม่ได้พูดอะไร เกี่ยวกับวาระ 8 ปีที่จะมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ “เพียงแต่ขอให้ท่านโชคดี หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยความเรียบร้อย”

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดคุยกับคนใกล้ชิดว่า "ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ 30 ก.ย.จะเป็นอย่างไร ก็พร้อมยอมรับในกระบวนการ ไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร"

สำหรับวันนี้ (30 ก.ย.) ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหม ตามปกติ จากนั้นจะกลับเข้าบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เพื่อติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ



-ด้าน พล.อ.ประวิตร เมื่อวานนี้ออกมาปฏิเสธ กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกต ว่ามีการจัดม็อบ สกัดกลุ่ม ที่จะมาหน้าทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ หลังจากวันก่อนมีภาพพบปะแกนนำผู้ชุมนุมที่มีการขึ้นป้าย "ขอกอดลุงป้อม"

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาเข้าพบนั้น เป็นการมาขอร้อง ซึ่งตนเป็นประธานในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ชาวบ้านเท่านั้น และไม่ได้พูดคุยกันว่าจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเมื่อใด

ส่วนกรณีที่มีการมองว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมาปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มอื่นมาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลวันที่ 30 กันยายน หรือไม่ (เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการขึ้นป้าย "ขอกอดลุงป้อมหน่อย นายกของประชาชน" ทั้งจุดชุมนุมที่ ถ.พิษณุโลก และ ถ.ราชดำเนิน บริเวณหน้ายูเอ็น) / พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ไม่รู้...ไม่มี มีที่ไหนเอาม็อบมากันม็อบ"

สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าทำเนียบ คือ กลุ่มผู้ชุมนุมสมัชชาเกษตรกรภาคอีสานและสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน (สอส.) และกลุ่มสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน สภาประชาชน 4 ภาค ได้ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการขออนุญาตชุมนุมไว้ถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

สำหรับในวันนี้ (30 ก.ย.) ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนช่วงบ่ายจะปฏิบัติหน้าที่ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ (เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) และในวันจันทร์หน้า (3 ต.ค.) พล.อ.ประวิตร ก็จะยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยจะไปติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดชัยนาท และอยุธยา


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/KQPxIRws-fA


คุณอาจสนใจ

Related News