หญิงวัย 55 โวย ครูใช้รองเท้าตบหน้าหลานฟันหลุด ด้าน ผอ.โต้กลับไม่จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี น.ส.รัชดาภรณ์ อายุ 55 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อขอความเป็นธรรม หลังร้องทุกข์ตำรวจ สภ.นาแก และหน่วยงานเกี่ยวข้อง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา นครพนม เขต 1 กล่าวหาว่า มีครูประจำชั้นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในจ.นครพนม ทำร้ายร่างกายหลานสาว อายุ 7 ขวบ โดยใช้รองเท้าตบที่ใบหน้า จนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 -20 กันยายน 2565 ซึ่งภายหลังได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์คดีไม่มีความคืบหน้า



ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.นาแก จ.นครพนม พบว่า น.ส.รัชดาภรณ์ ได้มาร้องทุกข์เมื่อวันที่ 22 กันยายน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันว่าถูกทำร้ายร่างกาย จึงยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งข้อหาเอาผิดตามกฎหมายใครได้ ต้องรอการสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย และยังไม่มีข้อสรุป



โดย น.ส.รัชดาภรณ์ เปิดเผยว่า ตนย้ายหลานจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นาแก เพราะมีปัญหาเรื่องการดูแลของครู ก่อนที่จะมาเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวในวันที่ 19 -20 กันยายน 2565 ไปเรียนแค่ 2 วัน จึงเกิดเรื่อง หลานกลับบ้านมาฟ้องว่า ถูกครูประจำชั้นทำร้าย เหตุจากไม่พอใจที่คัดไทยลายมือไม่สวย จึงใช้รองเท้าตบที่ใบหน้า จนฟันหลุด 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลังอีก 2 -3 ครั้ง ทำให้ตนไม่พอใจ และพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 เพื่อนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ โดยต้องการให้โรงเรียนมาชดเชยเยียวยาเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาผิดครูประจำชั้นคนดังกล่าว แต่สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงไม่คืบหน้า



ด้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดังกล่าว เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามตั้งแต่วันเกิดเหตุ หลังทางคุณยาย อ้างว่าหลานสาว ถูกครูประจำชั้นทำร้าย ทั้งที่เพิ่งย้ายมาเรียนกลางคัน ซึ่งจากการสอบถามครูที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า สาเหตุที่ฟันหลุด เพราะเป็นฟันน้ำนมที่หลุดเองตามธรรมชาติ และเด็กนักเรียน ยังนำมาให้ครูดู และแนะนำให้ทิ้ง เพราะเป็นฟันน้ำนม และตรวจสอบแล้วไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกายเด็ก แต่ไม่ทราบที่มาว่า ยายออกมาร้องเรียนกล่าวหาว่าหลานถูกครูประจำชั้นทำร้ายเพราะเหตุใด ยืนยันไม่ได้ปกป้องลูกน้อง หากผิดจริงพร้อมดำเนินการทางวินัย และพร้อมจะให้เอาผิดตามกฎหมาย

แต่มีการสอบสวนแล้วไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน เป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน ตนเข้าใจว่า ยายรักหลานมาก แต่ต้องว่ากันด้วยความจริง เพราะสิ่งที่ทำไป ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย วอนอยากให้ยายทบทวน มาหารือพูดกันด้วยเหตุผล เพราะหากไม่ใช่ความจริงจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ครูอาจารย์ รวมถึงตัวนักเรียนเองด้วย โดยเรื่องนี้ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ครูประจำชั้นทำงานมา 3 ปี ไม่เคยมีประวัติทำร้ายนักเรียน และนักเรียนทุกคนรัก ทำงานเก่ง หากยายไม่มีเหตุผลหรือไม่พูดความจริง ตนจำเป็นต้องเอาผิดคืน เพราะทำให้โรงเรียนเกิดความเสียหาย และฝากสังคมอย่าฟังความข้างเดียว ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน