แคดดี้สาวขโมยผงชูรส ยันเด็ก 3 คน เป็นลูกแท้ๆ ด้าน พม.ตรวจสูติบัตร พบไม่ใช่

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กรณี น.ส.มาริสา อายุ 36 ปี อาชีพแคดดี้สนามกอล์ฟ ก่อเหตุขโมยผงปรุงรส ผงชูรส และขนมเค้กช็อกโกแลต ภายในร้านสะดวกซื้อ โดยอ้างว่าจะนำไปขาย หาเงินซื้อนมให้ลูก 3 คน จนกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อปู่ของเด็กหญิงทั้ง 3 คน ยืนยันว่าเด็กทั้ง 3 คน เป็นลูกติดของลูกชายกับภรรยาเก่า ไม่ใช่เป็นลูกของแคดดี้สาว



โดย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางไปพบปู่ของเด็กทั้ง 3 คน แต่ได้รับการปฏิเสธในการช่วยเหลือ ซึ่งปู่ของเด็กยืนยันว่า เด็กอยู่ในความดูแลอย่างอบอุ่น ไม่ได้ขาดแคลนตามที่ผู้ต้องหากล่าวแต่อย่างใด และไม่ขอรับการช่วยในทุกกรณี



ขณะที่ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจสอบข้อมูลสูติบัตรของเด็กหญิงทั้ง 3 คน พบว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด



ด้าน พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งอัยการตรวจสอบสำนวน เพื่อนำตัวเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมฟ้องพิจารณาคดีที่ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ในบ่ายวันนี้ และตัดสินพิจารณาเสร็จสิ้นในวันเดียวกัน ซึ่งคดีนี้ไม่ซับซ้อน เนื่องจากผู้ต้องรับสารภาพในการกระทำความผิด



โดยระหว่างควบคุมตัวขึ้นรถ พบว่าผู้ต้องหามีลักษณะท่วงท่าลีลาการพูดคุยเปลี่ยนไปจากวันที่ถูกจับกุม ระมัดระวังคำพูดที่จะพูดคุยกับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวที่ถามว่าเด็กหญิงทั้ง 3 คน คุณปู่บอกว่าไม่ใช่ลูกของผู้ต้องหา แต่เป็นลูกติดของลูกชายกับภรรยาเก่านั้น ผู้ต้องหา ได้ตอบสั้นๆ อย่างระมัดระวังว่า เป็นลูกของตนจริงๆ และยังตำหนิผู้สื่อข่าวที่ไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของสามี เหตุที่ปู่ออกมาพูดว่าเป็นลูกติดของลูกชายกับภรรยาเก่านั้น เพียงต้องการไม่ให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวพบกับลูก



ด้าน นายไพบูลย์ อินทรีย์ ซึ่งเป็นทนายอาสาเข้าเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน เชื่อว่าผู้ต้องหาดูละครซีรีส์เกาหลีมากเกินไป ถึงได้กุเรื่องขึ้นมา หากขโมยเป็นนมผงขนม ก็ยังมีน้ำหนักความเชื่อได้ นี่ขโมยผลปรุงรส ผงชูรส เอาไปขาย แล้วยังจะมาสร้างละครขโมยไปเลี้ยงลูก เชื่อเป็นการสร้างละครขึ้นมาหลังก่อเหตุไม่มีทางออก



ด้าน พันตำรวจเอกประเวศ ศรีนาค ได้เดินทางมาติดคดีและทราบว่าทางปู่ออกมายืนยันว่าลูกทั้ง 3 คน ไม่ใช่เป็นลูกของผู้ต้องหา เป็นการกุเรื่องขึ้นมา แต่ข้อเท็จจริงอย่างไรพนักงานสอบสวนได้รวบรวมไว้ในสำนวนหมดแล้ว ก่อนพิจารณาคดีศาลยังจะสืบเสาะได้อีกในพฤติกรรมเพื่อพิจารณาโทษ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพผิด อัตราโทษปรับไม่เกิน 6,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ