บิ๊กไบค์หัวร้อน เบิ้ลเครื่องตามด่ารถโรงพยาบล เบรกกระทันหันทำรถเกือบชนท้าย

หนุ่มบิ๊กไบค์หัวร้อน ขี่รถตามประกบชี้หน้าด่ารถโรงพยาบาล ข้อหาเบรกกะทันหันทำรถเกือบชนท้าย ด้านคนขับรถโรงพยาบาลสุดใจเย็น ไม่ต่อล้อต่อเถียง กล่าวขอโทษพร้อมรีบนำคนป่วยส่งโรงพยาบาล

ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณนาย กานต์ ได้นำคลิปวีดีโอที่บันทึกเหตุการณ์จากด้านในของรถพยาบาล ที่เผยให้เห็นพฤติกรรมของคนขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หัวร้อน ที่ขับรถตามประกบรถโรงพยาบาลพร้อมเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดัง และชี้หน้าด่าคนขับรถของโรงพยาบาลคันดังกล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งที่ในรถโรงพยาบาล มีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยรวมถึงพยาบาลที่คอยเฝ้าดูอาการของคนป่วยอย่างใกล้ชิดอยู่ด้วย  ส่วนคนขับรถพยาบาล ได้พยายามกล่าวขอโทษคนขับบิ๊กไบค์ ก่อนจะปิดกระจกและรีบขับรถนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนก่อนที่คลิปจะตัดจบไป

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ รวมถึงพนักงานขับรถของโรงพยาบาลคันที่ถูกหนุ่มบิ๊กไบค์หัวร้อนขับตามประกบชี้หน้าด่า และได้ไปพูดคุยกับ นายอำพล ประมวลทอง อายุ 55 ปี พนักงานขับรถยนต์ ของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยะมหาราชรมณียเขต ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

โดยนายอำพล เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า  เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 11:00 นาฬิกา ของวันที่ 23 กันยายน 2565  ตอนนั้นตนรับหน้าที่ขับรถของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต นำผู้ป่วยหญิงที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ในตัวเมืองกาญจนบุรี ซึ่งมีระยะทางห่างกันมากกว่า 100 กิโลเมตร

โดยในระหว่างที่ขับรถมาในเลนขวาสุดมาถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงสามแยกบ้านเก่า อำเภอเมือง ได้มีรถเก๋งสีฟ้า ขับออกมาจากข้างทางเลนซ้ายสุดและตัดออกมายังเลนขวาสุดเพื่อจะกลับรถ ทำให้รถยนต์กระบะที่ขับนำหน้ารถพยาบาลต้องเบรกกะทันหัน และทำให้ตนซึ่งขับรถตามหลังรถกระบ ะต้องเบรคอย่างกะทันหันเพื่อไม่ให้ชนท้ายรถกระบะ 

จากนั้น เมื่อขับรถออกเลนซ้ายเพื่อจะนำคนป่วยไปส่งโรงพยาบาล ก็ได้มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขับเบิ้ลเครื่องเสียงดังมาจากด้านหลัง ก่อนจะขับขึ้นมาตามประกบ ก่อนชายคนขับบิ๊กไบค์จะชี้หน้าพร้อมตะโกนด่านด้วยถ้อยคำหยาบคาย  ตนจึงได้เปิดกระจกพร้อมถามว่า ตนเองไปทำอะไรให้ ซึ่งชายคนขับบิ๊กไบค์ ได้ตะโกนด่านโดยกล่าวหาว่าตน ขับรถไม่มีมารยาทและเบรกกะทันหันจนเกือบจะทำให้รถบิ๊กไบค์ของเขาชนท้ายรถพยาบาล

ซึ่ตนได้พยายามชี้แจงว่า รถด้านหน้ามีการเบรกกะทันหันทำให้ตนเองต้องเบรครถตามไปด้วย ไม่ได้มีเจตนาจะเบรคเพื่อให้รถบิ๊กไบค์มาชนท้ายแต่อย่างใด  ตนเองพยายามขอโทษอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง ก่อนจะปิดกระจกรถและขับรถมุ่งหน้าเพื่อพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนชายคนขับรถบิ๊กไบค์ก็ชะลอความเร็วและไม่ได้ขับตามไปอีก

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ชายคนขับรถบิ๊กไบค์ขับรถตามประกบและตะโกนด่านั้น ญาติของคนไข้และพยาบาลที่อยู่ภายในรถต่างอยู่ในอาการตื่นตกใจ ก่อนที่ญาติของคนไข้จะใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้แล้วนำไปโพสต์ลงใน Facebook เพื่อประจานพฤติกรรมหัวร้อนคนดังกล่าว  จนทำให้มีใช้เฟซบุ๊กหลายรายเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก  

นายอำพล กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนเองไม่ได้จอดรถลงไปพูดคุยหรือมีปัญหากับชายคนขับบิ๊กไบค์ ก็เพราะตนเองเห็นว่า หน้าที่ในการขับรถพาคนป่วยที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงไปส่งโรงพยาบาล มีความสำคัญมากกว่าที่จะลงไปต่อล้อต่อเถียงหรือมีปัญหากับคู่กรณีที่กำลังอยู่ในอารมณ์หัวร้อน เพราะตนก็รู้ดีว่าไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งเขา หากเสียเวลาลงไปพูดคุยด้วย ก็จะส่งผลเสียโดยตรงกับผู้ป่วย จึงตัดสินใจกล่าวขอโทษไปหลายครั้ง  ก่อนที่สุดท้ายจะพาผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาลได้อย่างเรียบร้อย ปลอดภัยดี

ทั้งนี้ ก็อยากจะฝากไปถึงชายคนขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ว่าไม่ควรมีพฤติกรรมหัวร้อนเช่นนี้ เพราะตนเอง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเบรคให้ขับรถชนท้าย ชายคนขับรถบิ๊กไบค์ควรมีสติและมีเหตุผลมากกว่านี้ ไม่ควรมาหาเรื่องกับตนที่เป็นคนขับรถโรงพยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่