ตำรวจวงแตกแฉกันเอง คดีล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รีดเงินผู้เสียหายแลกไม่ดำเนินคดี

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ทำการล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนรีดเงินเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี จำนวน 100,000 บาท ต่อรองเหลือ 40,000 บาท แล้วปล่อยตัวนั้น



เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 กันยายน ร.ต.อ.กวีวุฒิ ศรีบุญเรือง รองสารวัตร (สอบสวน ) สภ.เมืองระยอง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมนายธีระพล ขุนหมื่น ลายประดิษฐ์ นักกฎหมายดูแลด้านสิทธิมนุษย์ชน หลัง นายธานนท์ ตรีพลอักษร และ นางสาวรุ่งเรือง อุยขำ 2 นักข่าวในพื้นที่จังหวัดระยอง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตำรวจทั้ง 7 คน ที่ทำการข่มขู่และกระทำอนาจารคุกคามทางเพศกับนักข่าวหญิงต่อหน้าธารกำนัล จนเกิดความหวาดกลัวและเสียหายชื่อเสียง จากเหตุตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แล้วเรียกรับเงินแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี และพยายามแบล็คเมลนักข่าวทั้งสอง ไม่ให้นำเสนอข่าวในเหตุที่เกิดขึ้น



ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารอีสาน ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายบ้านแลง-ชากใหญ่ ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง พบ น.ส.ตุ๊ก เจ้าของร้าน ได้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ รวม 7 คน ได้มานั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านจริง พูดจาคุยกันเสียงดัง คล้ายกับทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งตนเองไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร



เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า ได้มีการแจกเงินให้กับกลุ่มที่มานั่งด้วยกันหรือไม่ ซึ่งน.ส.ตุ๊ก ยืนยันว่าไม่เห็นการแจกเงิน มีแต่เพียงชายเสื้อดำเป็นคนจ่ายค่าอาหาร แล้วทุกคนก็กลับไป



ต่อมานายธีระพล พร้อม นายธานนท์ ได้ไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ ข่มขู่และกระทำอนาจารคุกคามทางเพศนักข่าวหญิง เนื่องจากหวั่นใจว่าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกับกลุ่มตำรวจทั้ง 7 นาย จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอให้ทางจังหวัดระยองเข้าร่วมตรวจสอบด้วย



อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวยังได้ข้อมูลในเชิงลับจากญาติของตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งใน 7 ที่ร่วมขบวนการ พยายามจะไม่ให้ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าว เหตุที่ไปล่อซื้อแล้วรีดเงินค่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ จนได้ข้อมูลมาว่า เหตุในครั้งนี้ได้มีการวางแผนและเตรียมการเป็นอย่างดี ซึ่งพอผู้สื่อข่าวไม่รับข้อเสนอที่จะปิดข่าว จึงได้อาศัยภาพถ่ายขณะผู้สื่อข่าวร่วมรับประทานอาหารส่งให้เพจดังกล่าว หาว่ามีเอี่ยวรับเงินด้วย



ญาติตำรวจ เปิดเผยว่า หลานตนเองเป็นตำรวจยศสิบตำรวจตรี ได้ถูกตำรวจรุ่นพี่ชื่อหมวดยาว โทรศัพท์ตามให้ออกไปที่ร้านขายอาหารอีสานที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงเกิดเหตุข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนทั้งสอง และกระทำอนาจารคุกคามทางเพศผู้สื่อข่าวหญิง ซึ่งญาติได้ยืนยันว่าหลานตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว จึงมาขอความเป็นธรรมและส่งรายละเอียดต่างๆมาให้ ว่างานนี้หลานตนเองไม่เกี่ยว แต่มีการวางแผนกันมาก่อนหน้านี้แน่นอน จากตำรวจรุ่นพี่ที่ร่วมอยู่ในขบวนการ



เบื้องต้นนายธีระพล นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน ได้พานักข่าวผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองระยอง ก่อนทำหนังสือขอความเป็นธรรมถึง ผบ.ตร.ในเหตุที่เกิดขึ้น



ขณะเดียวกันเมื่อถาม นายธีระพล ว่าตำรวจในพื้นที่จะมีความหนักใจอย่างไรกับเหตุที่เกิดขึ้น นายธีระพล ได้กล่าวว่าในคดีนี้ ทางตำรวจต้องไม่หนักใจ และต้องกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อยกระดับให้องค์กรตำรวจดีขึ้น