คดีพลิก! ไม่ใช่คีย์บอร์ดระเบิด นักเรียนปืนลั่นใส่ ม.3 ดับ ครูยันทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน

นร.คนก่อเหตุสารภาพ ไม่ใช่คีย์บอร์ดระเบิด แต่ปืนลั่นใส่เพื่อน ม.3 ดับคาห้องคอมพ์ ด้านครูประจำวิชายัน ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน ไม่มีสัญญาณว่าผิดใจกัน

ช่วงบ่ายวานนี้ (15 ก.ย. 65) เกิดเหตุที่ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เมื่อตำรวจและกู้ชีพไปถึง พบร่างน้องโชค อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 นอนหงายจมกองเลือด อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ใบหน้ามีแผลฉกรรจ์เหนือคิ้วซ้ายลึกถึงกระดูก ทีมแพทย์เร่งปั้มหัวใจ พร้อมให้ยาเพื่อช่วยเหลืออาการ นานกว่า 30 นาที แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตน้องโชคไว้ได้ ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิต เพราะเสียเลือดมาก

ส่วนสาเหตุเพื่อนของน้องโชค ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เล่าว่า ก่อนระเบิดได้เข้ามานั่งเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เตรียมเรียน ผ่านไปประมาณ10 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ซึ่งก่อนระเบิดก็ไม่ได้กลิ่นเหม็นไหม้ หรือเสียงไฟช็อตอะไรเลย พอสิ้นเสียงระเบิด ก็เห็นโชคนอนกองอยู่ที่พื้น ส่วนตนเองหูอื้อเพราะเสียงระเบิดดังมาก

เช่นเดียวกับ น.ส.ศศินา ครูประจำวิชาคอมพิวเตอร์ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนนั่งอยู่หน้าห้อง จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จึงรีบวิ่งไปดู พบน้องโชคนอนอยู่ที่พื้นไม่เคลื่อนไหว มีเลือดออกมาเต็มไปหมด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ พอสอบถามเด็กบอกว่าคีย์บอร์ดระเบิด ก็เห็นว่าคีย์บอร์ดชำรุดอยู่จึงแจ้งตำรวจตามนั้น

พร้อมยืนยันว่าเด็กทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกัน ไม่มีสัญญาณว่าทะเลาะผิดใจกัน ซึ่งน้องเอ คนก่อเหตุจะมีปัญหาแค่เรื่องเดียว คือ ขาดเรียนบ่อย เพราะมีปัญหาด้านการเงิน และน้องก็อาศัยอยู่วัดกับหลวงพ่อที่รับเลี้ยง รับดูแล และทั้งคู่ไม่เคยมีประวัติเข้าห้องปกครอง

หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.บางบัวทอง นำตัวเด็กนักเรียนในห้องไปสอบสวน จากนั้นประมาณ 17.00 น. เด็กชายเอ (นามสมมติ) รับสารภาพว่า เอาปืนปากกามาเล่น แล้วเกิดลั่นใส่เพื่อนจนเสียชีวิต โดยปืนที่ก่อเหตุขโมยมาจากพระที่เป็นผู้ปกครอง จึงคุมตัวเด็กคนดังกล่าวไปสอบสวน

ขณะเดียวกันตำรวจได้นิมนต์พระ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กชายเอ มาให้ข้อมูล บอกว่า เด็กชายเอเคยมาฟ้องว่าถูกเพื่อนต่อย แต่ตัวเขาเองไม่เคยเห็นต่อยใครสักที ส่วนปืนอาตมาไม่ทราบว่าเอามาจากไหน อาตมาไม่มีปืน บวชมา 30 ปีแล้ว จะหาปืนมาจากไหน ซึ่งเด็กชายเอก็ไม่เคยมีปัญหากับเด็กที่ตาย เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตกใจมาก รู้สึกงงว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ล่าสุด พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้แถลงสรุปคดีหลังสอบปากคำนักเรียนที่ก่อเหตุ ร่วมกับสหวิชาชีพ อ้างว่า เด็กชายเอ ได้พกปืนไทยประดิษฐ์ .38 มาที่โรงเรียน โดยใส่ปืนไว้ในเสื้อกันหนาว ซึ่งขณะนั้นน้องโชคผู้เสียชีวิต ได้นั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ส่วนเด็กชายเอ ได้สะบัดเสื้อกันหนาวเพื่อมาสวมใส่ แต่ปรากฏว่าปืนลั่นเข้าที่กระบอกตาข้างซ้ายของน้องโชค จนทำให้เสียชีวิต พร้อมยืนยันทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน แต่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน สาเหตุที่พกปืนเข้ามาในโรงเรียนเพื่อนำมาขู่กลุ่มนักเรียนที่เป็นคู่อริในโรงเรียน

ในช่วงบ่ายตำรวจจะนำตัวเด็กที่ก่อเหตุไปที่ศาลเยาวชน ส่วนรุ่นพี่ที่ให้การช่วยเหลืออีก 5 คน ตอนนี้อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว และจะถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งปืนที่ผู้ก่อเหตุนำมา นำมาจากรุ่นพี่ ที่มีความรู้ในการประดิษฐ์ปืน

ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัว "น้องโชค" นักเรียนชั้นม. 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก เดินทางมาที่โรงเรียนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพร้อมนิมนต์พระ มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ โดยมีคณะครูมารอต้อนรับและพูดคุยกัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า