กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ด้านวิสัญญีสัตวแพทย์

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ดังนี้


วันนี้ เวลา 17.51 น. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จลง ณ ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลำกล้อง ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาบรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ทำการขูดหินปูน ถอนฟัน และตัดก้อนเนื้อบริเวณหัว ให้กับสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล อายุ 7 ปี โดยทรงให้ยานำสลบผ่านทางหลอดเลือด ทรงใช้ยาดมสลบ เพื่อคงภาวะการสลบตลอดระยะเวลาการผ่าตัด พร้อมกับทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพ ผ่านจอมอนิเตอร์ เพื่อทรงประเมินความปลอดภัย


โอกาสนี้ เสด็จไปยังห้องสัตว์ป่วยวิกฤต (ซีซียู) ทรงเยี่ยมสุนัขในพระอนุเคราะห์ เป็นสุนัขพันธุ์ไทย ซึ่งได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้ขาทั้ง 4 ข้าง เป็นอัมพาตจากกระดูกสันหลังผิดปกติ และกระดูกข้อสะโพกเสื่อม ทรงเยี่ยมสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ที่ป่วยด้วยอาการมดลูกอักเสบ และภาวะเบาหวาน ตามที่ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ผ่าตัดทำหมัน และรักษาอาการมดลูกอักเสบ รวมถึงควบคุมระดับน้ำตาลให้กับสุนัขดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 กันยายน


เวลา 13.38 น. เสด็จออก ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาบรมราชินีนาถ ทรงเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์ โดยมีระเบียบวาระการประชุมฯ อาทิ การรับรองรายงานการประชุมกรรมการบริหารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ครั้งที่ 1/2565 การดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันและระงับอุบัติภัย สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ งบประมาณปี 2566


สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เป็นองค์กรที่พัฒนางานวิจัยด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ปัจจุบันได้สนองพระดำริ โครงการวิจัยเพื่อพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 ในรูปแบบต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์ "ยาโมลนูพิลาเวียร์" ซึ่งได้พระราชทาน เทคโนโลยีการสังเคราะห์ยาดังกล่าว แก่รัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 นำไปผลิตตำรับยา สำหรับใช้ภายในประเทศ พร้อมกับทรงรับเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อพัฒนายาระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข ตามคำกราบทูลเชิญของสำนักนายกรัฐมนตรี ในการพัฒนาผลงานวิจัยตัวยาเคมี และชีววัตถุ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และประเทศชาติในอนาคต