เศรษฐกิจ

สรรพสามิตเร่งศึกษา เก็บ ‘ภาษีคาร์บอน’ นำร่อง 5 อุตสาหกรรม คาดได้ข้อสรุปปี 66

โดย JitrarutP

12 ก.ย. 2565

99 views

“กรมสรรพสามิต” เร่งศึกษา เตรียมเก็บ “ภาษีคาร์บอน” หนุนผู้ประกอบการใช้พลังงานสะอาด นำร่อง 5 อุตสาหกรรม ปูน -  เหล็ก - อลูมิเนียม - ปุ๋ย - ไฟฟ้า คาดได้ข้อสรุปปี 2566

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตเตรียมศึกษาแนวทางการจัดเก็บ “ภาษีคาร์บอน” (CARBON TAX) ซึ่งเป็น 1 ในเทรนด์ที่ท้าทายต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลต่อการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกทำให้ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยใช้มาตรการทางภาษีเป็นตัวขับเคลื่อน


เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 ที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065 เบื้องต้น กรมมีแนวทางในการสนับสนุนการนำเอทานอลบริสุทธิ์มาใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพ (Bio Plastic) เชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยาน (Bio Jet) ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในขั้นตอนการผลิตสินค้า และช่วยส่งเสริมให้มีการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอีกด้วย


การรักษาสิ่งแวดล้อม นับเป็นกติกาใหม่ของโลก ซึ่งที่ผ่านมาไทยยังไม่ได้เทคแอคชั่นมากนัก แต่ภาษีสรรพสามิตจะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญโดยกลุ่มประเทศยุโรป ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว หากประเทศไหน มีการส่งออกสินค้าที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง ก็จะถูกเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งไทย ก็ต้องยึดแนวทางปฏิบัติสากล ถ้าปล่อยคาร์บอนสูง จะเก็บภาษีสูง อะไรที่เป็นพลังงานทางเลือก ก็จะเก็บภาษีน้อยมาก หรือไม่เก็บภาษีเลย


สำหรับหลักการในการจัดเก็บภาษีคาร์บอน จะต้องศึกษาให้ชัดเจน โดยเฉพาะประเทศที่มีการนำมาใช้แล้ว ในกลุ่มประเทศยุโรป ที่มีการจัดเก็บภาษีคาร์บอนในอุตสาหกรรม 5 ประเภท คือ 1.ปูน , 2.เหล็ก , 3.อลูมิเนียม , 4.ปุ๋ย และ 5.ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานโลก และการจัดเก็บก็ทำได้ 2 รูปแบบ คือ 1.คำนวนจากสินค้าหน้าโรงงาน ใครผลิตออกมาเยอะ เก็บเยอะ ใครไม่ปล่อยคาร์บอนก็ไม่เก็บ 2. คำนวณจากกระบวนการผลิต ต้นน้ำ ปลาย น้ำ ซึ่งจะต้องร่วมมือกับ องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก ว่าจะมีแนวปฏิบัติอย่างไร ซึ่งการศึกษาจะได้เห็นผลในงบประมาณ 2566


ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2566 กรมตั้งเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ที่ 5.67 แสนล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลไปบ้าง แต่ก็เป็นผลระยะสั้น ดังนั้น สิ่งที่จะมาช่วยเรื่องรายได้ คือฐานภาษีใหม่ ๆ โดยเฉพาะภาษีสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักการ คนที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่เห็นแก่สังคม ต้องเก็บภาษีมากขึ้น ต้องรักษาสมดุล กรมสรรพสามิตยุคใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องรายได้ แต่ภาษีสรรพสามิตต้องช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย ให้เป็นไปตามจุดประสงค์การตั้งเป้าเป็นกรม ESG หรือกรมที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล

คุณอาจสนใจ

Related News