สุดรันทด! 7 ชีวิต อาศัยในความมืด ค้างจ่ายค่าไฟหลายเดือนจนถูกตัดไฟ

ที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวพบกับครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ด้วยกัน 7 ชีวิต เป็นเด็ก 4 คน ผู้สูงอายุ 3 คน ที่ต้องทนอยู่ในความมืดและต้องการความช่วยเหลือ โดยครอบครัวประกอบด้วย นางสมศรี อายุ 67 ปี , นายวิก อายุ 67 ปี , น.ส.สร้อย อายุ 41 ปี , น้องวิว อายุ 15 ปี กำลังเรียน ม.4 , เด็กหญิง 2 คน และเด็กชาย 1 คน อายุ 1-10 ขวบ โดยทั้งครอบครัวมีรายได้เพียงเงินผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท ซึ่งได้รับเงินแค่ 2 คนเท่านั้น



โดยผู้ที่สามารถออกไปหารับจ้างทำงาน มีเพียง นางสมศรี และนายวิก ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด ไม่มีใครจ้างไปทำงาน ทำให้ไม่มีรายได้ ส่วน น.ส.สร้อย ต้องคอยเลี้ยงลูกที่อายุเพิ่งจะ 1 ขวบ และต้องรับส่งลูกไปโรงเรียน เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ถูกการไฟฟ้าตัดกระแสไฟฟ้า เนื่องจากค้างจ่ายเป็นเวลาหลายเดือน เป็นเงินกว่า 9,000 บาท ทำให้ต้องทนอยู่ในความมืดมานานเกือบ 2 เดือน ต้องใช้ฟืนหุงข้าว และทำกับข้าวให้เด็กๆ



ในขณะที่เด็กเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็ต้องรีบทำการบ้านก่อนที่จะมืด โดยระหว่างที่ผู้สื่อข่าวไปพบกับครอบครัว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เด็กๆกลับจากโรงเรียน และเกิดหิวข้าว แต่ในหม้อไม่มีข้าวให้กิน จนเด็กๆ ต้องร้องขอเงินจากนางสมศรี 10 บาท เพื่อไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่นางสมศรี ก็ไม่มีให้



โดย นางสมศรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าไฟ เนื่องจากในช่วงนี้ไม่มีใครมาจ้างไปทำงาน ตนเองอยากจะไปทำงานกรุงเทพ แต่ก็คงไม่มีใครจ้าง เนื่องจากอายุมากแล้ว ตอนนี้ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน มาซื้ออาหารให้เด็กกิน หากไม่เลี้ยงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เห็นดวงตาใสๆ แล้วก็สงสาร



นางวรรณา ไกรสร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านท่า เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ยากจนมาก เนื่องจากมีเพียงเด็กและคนแก่ ที่ผ่านมาชาวบ้านช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยากจนเหมือนกัน จึงช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนัก