ช่วย 51 ชีวิตโรงฮิงญา บางส่วนลอยคอกลางทะเล พบมาจากรัฐยะไข่จะเดินทางไปอินโดฯ แต่ลมแรงคนเยอะจึงถูกบังคับกระโดดลงจากเรือ

กรณีชาวประมงอวนปูบ้านปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ได้พบชาวโรฮิงญาจำนวน 10 คนลอยคออยู่ระหว่างเกาะบูโหลนและเกาะเขาใหญ่ โดยพบขณะที่ทั้ง 10 คนเกาะแผ่นโฟมและใช้ผ้าถุงห่อ มีไม้ไผ่เสียบ ลอยคอร้องขอความช่วยเหลือ ชาวประมงคนดังกล่าวได้ช่วยเหลือและนำมาปล่อยไว้ที่แหลมเต๊ะบัน ต.ปากน้ำ อ.ละงู เมื่อเช้าของวันที่ 6 ก.ย.65 และก่อไฟเพื่อขับไล่ความหนาวเย็น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอ.ละงู และตำรวจสภ.ละงู ได้นำตัวไปยังสภ.ละงู เพื่อสอบปากคำและคัดแยกเหยื่อพร้อมช่วยเหลือให้เสื้อผ้า อาหารตามหลักสิทธิมนุษยชน




จากการสอบสวนชาวโรฮิงญาทั้ง 10 คนผ่านล่าม ทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวยะไข่ กำลังจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่หลบหนีออกมาจากศูนย์พักพิงของยูเอ็นฯที่บังคลาเทศ จากนั้นอาศัยมากับเรือซึ่งมีคนเดินทางร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยพวกตน10 คนถูกบังคับให้กระโดดเรือเนื่องจากคลื่นลมแรง โดยมีเกาะแผ่นโฟมที่ใส่ในผ้าโสร่งผูกไว้ลอยคออยู่ในทะเลเป็นเวลา 4 วันกำลังจะหมดแรงแต่ก็มีชาวประมงพื้นบ้านผ่านมาและช่วยเหลือไว้




ล่าสุดทางฝ่ายปกครองอ.ละงู ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูลว่าพบชาวโรฮิงญาอีกทั้งชาย หญิง และเด็ก อยู่ที่เกาะกล้วย ต.ขอนคลาน อ.ละงู จ.สตูล จึงประสานสถานีเรือละงู ศรชล ตำรวจน้ำ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ(ประมงใบไม้เขียว) ขอกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบโดยทหารนำเรือ ต.996 ออกตรวจสอบโดยด่วน




เบื้องต้นพบว่ามีบุคคลต่างด้าวในพื้นที่ดังกล่าวจริงโดยทั้งหมดอยู่ริมชายหาดเกาะกล้วย เป็นชาย 31 คน หญิง 8 คน และเด็กชาย 2 คน รวม 41 คน โดยนำทั้งหมดขึ้นเรือและกลับเข้าฝั่งที่สถานีเรือละงูเพื่อทำการสอบสวนต่อไป โดยวันนี้รวมชาวต่างด้าวทั้งหมดที่พบในพื้นที่จ.สตูล จำนวน 51 คน




ล่าสุด น.อ.ธนฤกษ์ วรชาตินักรบ รองผอ.ศรชล สตูล แจ้งว่าทางตำรวจน้ำกองกำกับการ 9 อ.กันตัง จ.สตูล ได้พบเรือที่บรรทุกชาวโรฮิงญาเป็นคนไทย 1 คน พม่า 6 คน เบื้องต้นทราบว่าบรรทุกมา 60 คน น้ำมันหมด จึงวิ่งเข้าร่องน้ำกันตัง