ระทึกกลางกรุง! บุกจับมือฆ่า ‘ทนายมานพ’ ตร.สอบเข้ม เร่งขยายผลหาตัวคนบงการ

ตำรวจรวบแล้ว ทีมสังหารอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เสียชีวิตภายในปั้มน้ำมันที่ระยอง เตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมเร่งขยายหาตัวผู้บงการเพิ่ม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดบูรพา 491 พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าจับกุมนายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงนายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ เสียชีวิตภายในปั้มน้ำมันของนายมานพ ที่ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจได้ตามแกะรอยตั้งแต่นายปิติ ซึ่งในภาพจะใส่เสื้อสีขาว เดินขึ้นรถเก๋งสีดำไปพร้อมกับชายเสื้อแดงอีกคน ที่ขับรถมารับนายปิติ ที่ย่านวงศ์สว่าง กรุงเทพฯ ตำรวจได้ขับรถตามนายปิติ จนไปถึงที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งรถคันดังกล่าวได้จอดเติมน้ำมัน ตำรวจจึงตัดสินใจเข้าจับกุมนายปิติ และคนที่มาด้วย โดยที่นายปิติไม่ได้มีโอกาสที่จะต่อสู้หรือขัดขืน

จากนั้นพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนาย ได้เดินทางมาที่ปั้มน้ำมันดังกล่าวและได้ซักถามนายข้อมูลเบื้องต้น โดยตำรวจได้คุมตัวนายปิติ ได้ค้นที่บ้านพักในย่านเสาชิงช้า เพื่อหาหลักฐานเพิ่ม จากนั้นได้คุมตัวนายปิติ มาสอบปากคำที่กองปราบปราม

ในวันเดียวกัน ตำรวจกองปราบปราม ได้บุกเข้าจับกุม นายนิติพนธ์ ฉ่ำชื่น หรือ นายแบน ได้ที่จังหวัดแพร่ หลังจากการสืบสวนพบว่า นายนิติพนธ์ เป็นผู้ว่าจ้างนายปิติ ให้มายิงนายมานพ โดยตำรวจสามารถยึดปืนของนายนิติพนธ์ ที่พกติดตัวได้ 1 กระบอก จากนั้นจึงคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มที่กองปราบปราม

พลตำรวจเอกสุชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจได้ตามแกะรอยคนร้าย จนมีพยานหลักฐานยืนยันว่ามีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยคนร้ายได้สะกดรอยตามผู้ตายมาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยเบื้องต้นนายปิติ รับสารภาพว่าถูกนายนิติพนธ์ว่าจ้างในราคา 8 หมื่นบาท และหลังก่อเหตุได้นำปืนไปคืนให้นายนิติพนธ์ และ นายนิติพนธ์ได้พาหลบหนีมาที่กรุงเทพ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อน ส่วนประเด็นการสังหารขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่ามาจากเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นหรือไม่ เพราะพยานหลักฐานยังเชื่อมโยงไปไม่ถึง โดยเวลาบ่าย 3 โมงวันนี้ จะนำตัวนายปิติไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ปั้มน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดสังหารนายมานพ

โดยมีรายงานแจ้งว่า หลังจากที่นายปิติ ได้ขี่มอเตอร์ไซด์มาหานายนิติพนธ์เพื่อให้พาหลบหนีแล้ว ได้มีการนำมอเตอร์ไซด์ที่ขี่ไปก่อเหตุไปทิ้งยังพื้นที่รกร้าง ห่างจากปั้มน้ำมันของผู้ตาย ประมาณ 4 กิโลเมตร นายปิติ ได้เลือกที่จะมากบดานที่กรุงเทพเพราะมีบ้านอยู่ที่ย่านเสาชิงช้า ส่วนนายนิติพนธ์ ได้เดินทางไปหลายจังหวัด จนสุดท้ายหนีไปกบดานที่จังหวัดแพร่ เพราะวางแผนไว้ว่าหากถูกออกหมายจับก็จะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนเมื่อคืนนี้ ตำรวจได้แยกนายปิติ และนายนิติพนธ์ อยู่คนละห้องเพื่อสอบปากคำ เบื้องต้นนายนิติพนธ์ยังคงรับสารภาพเพียงว่า เป็นคนว่าจ้างนายปิติ 8 หมื่นบาทให้ยิงนายมานพจริง แต่ยังไม่ยอมพูดว่ารับงานมาจากใคร

ทั้งนี้พบว่านายนิติพนธ์ ยังได้รู้จักกับคนกลางคนหนึ่ง ซึ่งคนกลางคนนี้รู้จักกับคนขับรถของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยอง และ คนขับรถนักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ได้โอนเงินจำนวนหนึ่ง ในกับภรรยาของนายนิติพนธ์ ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นเงินอะไร หรือเกี่ยวข้องกับการสังหารนายมานพหรือไม่

ส่วนนายมานพ มีความสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่นหลายคนที่อยู่ขั้วเก่า และถึงขั้นสามารถสั่งการ เพื่อให้มีปัญหากับนักการเมืองท้องถิ่นฝั่งตรงข้ามได้ โดยเฉพาะเรื่องการเสนอโครงการต่างๆ ที่นักการเมืองขั้วเก่าของนายมานพ จะไม่สนับสนุน จนทำให้เกิดปัญหา