พลั้งมือฆ่าผัว ขณะทะเลาะกันรุนแรง แทงแผลเดียวถูกหัวใจดับ

เมียแทงผัวด้วยมีดปอกผลไม้ เพียงแผลเดียวตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตทันที ในบ้านพักย่านพระประแดง

วันที่ 28 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท ภายในครอบครัวมีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในซอยสุขสวัสดิ์ 76 ซอย 6/2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น หมู่บ้านสัณหกิจ วิลล่า ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จุดเกิดเหตุบริเวณชั้นล่างหน้าประตูทางเข้าพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดสีเขียวและกางเกงขาสั้นบ็อกเซอร์

จากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยมีดปอกผลไม้ที่ราวใต้ราวนมข้างซ้ายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนาย สิทธิกร สมบัติทวีศรี พนักงานโรงงานแก๊สย่านพระราม 2 แผนกเช็คเกอร์ คือพนักงานตรวจสอบจำนวนหรือปริมาณสินค้า ใกล้กันพบมีดปอกผลไม้ความยาวประมาณ 10 ซม. จำนวน 2 ด้าม คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.นิชนันท์ ชีวพงษ์ชัย อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า บ้านนี้อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน มีลูกสาววัย 9 ขวบ และผู้ตายเป็นสามีใหม่ ขณะเกิดเหตุ ได้มีปากเสียงเรื่องภายในครอบครัวจึงให้ผู้เสียชีวิตออกบริเวณนอกบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์ ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปบนบ้านบริเวณชั้น 2 แต่ถูกผู้ตายรังควานและตามขึ้นมาภายในห้องพัก จึงได้หยิบมีดปอกผลไม้จากชั้น 2 ไว้ที่มือทั้งสองข้างเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายมีลักษณะตัวที่ใหญ่และแข็งแรงกว่า จากนั้น ได้ทำร้ายร่างกายกันบริเวณชั้น 2 และลงบันไดมาถึงบริเวณชั้น 1 จึงทำให้ข้าวของภายในบ้านกระจัดกระจายได้รับความเสียหาย แต่ผู้ตายไม่หยุดก่อเหตุที่จะระราน และได้ใช้ผ้าห่มคลุมตัว น.ส.นิชนันท์ จากนั้นจึงใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมไว้แทงโดยไม่ได้หวังผลที่จะฆ่าสามีแต่พลาดถูกจุดสำคัญ โดยแทงที่บริเวณใต้ราวนมตัดขั้วหัวใจ ทำให้นายสิทธิกรล้มลง ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นจึงโทรแจ้งรถพยาบาลและเรียกน้องสาวให้มาอยู่เป็นเพื่อน ขณะเดียวกันก็ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ก่อเหตุเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อรับโทษตามกฎหมายต่อไป