สังคม

ย้อนคดีปล้นบ้าน 'ปลัดสุพจน์' สู่การหาที่มาการเงิน ร่ำรวยผิดปกติ

โดย panwilai_c

27 ส.ค. 2565

714 views

หัวหน้ากลุ่มผู้ต้องหาปล้นทรัพย์บ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมปฎิเสธข้อหา โดยขอให้การในชั้นศาล หลังหลบหนีไปตั้งหลักที่ สปป.ลาว นานกว่า 10 ปี จนถูกทางการ สปป.ลาวจับในคดีหลบหนีเข้าเมือง แล้วถูกส่งกลับมา วันนี้ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยคดีปล้นทรัพย์บ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมเกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน ส่วนอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมได้พ้นโทษออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน



เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ในซอยลาดพร้าว 64 ย่านวังทองหลาง เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกเข้าปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยวันเกิดเหตุเป็นวันจัดพิธีฉลองสมรสของบุตรสาวของนายสุพจน์ ซึ่งจัดที่โรงแรม กลุ่มผู้ต้องหาได้จัดชุดเฝ้าหน้าบ้าน จนแน่ใจว่าเจ้าของบ้านได้ออกไปงานแต่งแล้ว จึงนำถุงปุ๋ยเข้าไปหอบเงินสดที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง และกล่องลัง หนีไป เรื่องมาแดงในวันรุ่งขึ้น ทั้งที่นายสุพจน์ไม่อยากแจ้งความ และต่อมาตำรวจสืบสวนได้ติดตามจับผู้ต้องหาได้ 8 คน จากหลายพื้นที่ทั้ง จังหวัดเชียงราย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดนครพนม ยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมด 18 ล้าน 1 แสนสองหมื่น 1 พันบาท เหลือ นายวีรศักดิ์  ที่ยังหลบหนี



1. นายสิงห์ทอง ใจชมชื่น เงินสด 500,000 บาท

2. นายเสาร์แก้ว นามวงศ์ เงินสด 1,050,000 บาท

3.นายสมบูรณ์ ริยะเทน เงินสด 994,000, บาท

4.นายบุญสืบ โจมกัน เงินสด700,000 บาท

5.นายวุฒิชัย พันธวารี เงินสด 840,000 บาท

6.นายวณัญกฤต บุตรกันหา เงินสด 9,965,000 บาท

7.น.ส.วาสนา สาเพิ่มทรัพย์ เงินสด 1 ล้าน บาท

8.นายวีรศักดิ์ หรือโก้ เชื้อลี นำรถกระบะ หมายเลขทะเบียน กฉ 1166 กาญจนบุรี และเงิน 1,500,000 บาท ไปฝากไว้แก่ นายเลอศักดิ์ ต่อมาเจ้าพนักงานติดตามยึดรถกระบะได้ (หัวหน้าแก๊งหลบหนี)

9.นายเลอศักดิ์ นำเงิน 1,500,000 บาท มามอบต่อเจ้าพนักงานตำรวจ



โดยผู้ต้องหาให้การว่าที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ เนื่องมาจาก นางชุติมา ซึ่งเป็นเป็นเลขานุการของนายสุพจน์ ทราบว่าบ้านของนายสุพจน์มีเงินเก็บไว้จำนวนมาก โดยนายวีรศักดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหาระบุว่า นายสุพจน์มีเงินอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท และได้ปล้นทรัพย์ไปเกือบ 200 ล้านบาท



จากการปล้นทรัพย์สิน ได้นำไปสู่การถูกตรวจสอบที่มาทรัพย์สิน เดือนพฤษภาคมปี 2555 นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติ โดยนายสุพจน์ได้คัดค้านว่าคนร้ายได้เงินไป 5 ล้านบาท ซึ่งได้ยกให้เป็นสินสอดของลูกสาว ซึ่งขัดกับที่ผู้ต้องหาให้การว่าเงินสินสอดที่ผูกโบไม่ได้นำไป



มกราคมปี 2557 ศาลแพ่งตัดสินยึดทรัพย์นายสุพจน์ กว่า 46 ล้านบาท ขณะที่ฝ่ายนายสุพจน์ยื่นอุทธรณ์สู้คดี กระทั่ง พฤศจิกายน 2558 ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้ให้ริบทรัพย์เพิ่มเป็น 65 ล้านบาท



ถัดมาอีก 2 ปี ในปี2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาจำคุกนายสุพจน์ เป็นเวลา 10 เดือน และสั่งห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 5 ปี ฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินกว่า 17 ล้านบาท และรถยนต์ มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท



หลังจากนายวีระศักดิ์ถูกส่งตัวจาก สปป.ลาวในความผิดหลบหนีเข้าเมือง มายังตม.หนองคาย และ สน.วังทองหลาง เบื้องต้น นายวีระศักดิ์ ปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการปล้นทรัพย์ของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมและขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้นส่วนที่ต้องหลบหนี เนื่องจากช่วงนั้นเป็นข่าวใหญ่เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงหนีไปตั้งหลักที่ลาวเป็นเวลากว่า 10 ปี จนกระทั่งถูกทางการ สปป.ลาวส่งตัวกลับมา ซึ่งศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว



ส่วนนายสุพจน์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งจำคุกเป็นเวลา 10 เดือน และได้พ้นโทษออกมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

คุณอาจสนใจ