ฝนตกหนักหลายภาคน้ำอ่วม กรมชลฯ เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักฯ 27 ส.ค.นี้ จว.ท้ายเขื่อนเตรียมรับมือ

อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะลุ่มน้ำป่าสักที่มีปริมาณน้ำสะสมกว่า 130 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำกรมชลประทานต้องปรับแผนระบายน้ำเพิ่มขึ้น รองรับปริมาณน้ำฝนที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ส่วนที่จังหวัดตากและลำปาง ต้องอพยพ ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน



ภาพมุมสูงเผยให้เห็นน้ำที่หลากท่วมในเขตตัวเมืองลำปาง ซึ่งมีสีแดงขุ่นกระจายไปทั่วบริเวณศูนย์ราชการ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่ใช่น้ำป่า แต่เป็นน้ำฝนที่ชะล้างตะกอนดินภูเขา หลากลงไปสะสมทำให้สีแดงขุ่น และการไหลของน้ำเป็นแบบเอ่อขึ้น ไม่ใช่น้ำป่าหลากจากเชิงเขา แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็เร่งหาทางระบายออก เพราะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา



ซึ่งทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เพื่อการระบายน้ำออกจากเขื่อนกิ่วลมเป็น 152 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากมีน้ำไหลเข้าสะสมในอ่าง อยู่ที่ร้อยละ 77 ของความจุอ่างแล้ว ตอนนี้พื้นที่ประสบภัยหนักสุดของจังหวัดลำปางคืออำเภอแจ้ห่ม เพราะมีฝนตกหนักวัดได้ 104 มิลลิเมตร ทำให้น้ำไหลป่า ไหลบ่าผ่านตัวอาคาร ทำงานและพื้นที่รพ.แจ้ห่ม จนต้องเตือนให้เฝ้าระวังใกล้ชิด กระทั่งเมื่อฝนหยุดตกราว 3-4 ชั่วโมงจึงคลี่คลาย



อีกด้านหนึ่งคือที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ก็เกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลตำบลแม่ต้าน ซึ่งน้ำในลำห้วยแม่ต้าน สูงขึ้นฉับพลันจนพัดบ้านเรือนชาวบ้านจมน้ำไป 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย ตอนนี้แม้ระดับน้ำในห้วยจะลดลงแต่ยังไม่พ้นห้วงเวลาการเฝ้าระวัง เพราระหว่างเส้นทาสงสายแม่สอด-ท่าสองยาง ตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 91-93 ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง มีต้นไม้ถูกพายุพัดล้มกว่า 100 ต้น เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังมาตัดเพื่อเปิดเส้นทางสัญจร



รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่าการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นแผนปกติที่ต้องรับมือกับฤดูฝนที่ยังเหลืออยู่อีก เพราะจากสถิติแล้วจะ ยังมีฝนตกชุกในเดือน กันยายนถึงตุลาคม ตอนนี้แต่ละแห่งจึงพร่องน้ำเพื่อรองรับไว้



เมื่อเช้านี้น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลากลงคลองมะเดื่อ ต.สาริกา อ.เมือง ทำให้รีสอร์ทหลายแห่งที่อยู่ใกล้คลอง ได้รับผลกระทบ รถยนต์หลายคันถูกน้ำท่วม แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย และน้ำลดลงเป็นปกติ แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก สั่งให้แจ้งรีสอร์ท โรงแรม ที่พักงดกิจกรรมทางน้ำ ตามลำน้ำทั้งหมดในนครนายก เพราะยังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำป่าหลากลงมาอีกได้ทุกเมื่อ