เมียคอหักดับปริศนาคารถ พบพิรุธคราบเลือดในบ้าน สามีอ้างเมาไม่รู้เรื่อง ให้การวกวน

หญิงสาว 41 ปี เสียชีวิตปริศนาในรถ สภาพคอหัก เลือดเต็มบ้าน ถามผัวบอกไม่รู้ อ้างพากันดื่มเหล้าจนเมา แล้วแยกย้ายไปนอน ตำรวจคุมตัวสอบเข้มพบให้การมีพิรุธ พยานให้ข้อมูล 2 ผัวเมียชอบดื่มหนัก เมาแล้วชอบทะเลาะกันประจำ

เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 10 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตำรวจ สภ.จอมบึง เข้าตรวจสอบพบร่างนางฐิติยา อายุ 41 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ซึ่งจอดอยู่ริมถนนหน้าบ้าน สภาพสวมเสื้อสีขาว หน้าอกด้านซ้ายเปื้อนเลือด นุ่งกางเกงสีชมพูขาสี่ส่วน นั่งอยู่ที่เบาะคนขับสภาพคอพับไปทางด้านซ้าย และหมุนได้เหมือนคอหัก ที่ปากมีแผล ลักษณะเป็นแผลเก่าที่ได้รับการรักษาแล้ว เพราะมีร่องรอยการเย็บ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง

ตำรวจตรวจสอบในรถไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงส่งศพไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบในบ้าน พบคราบเลือดแห้งที่หน้าประตูทางเข้าจำนวนมาก ส่วนรอบๆ บ้านมีคราบเลือดจางๆ เปื้อนอยู่ จึงเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบว่าเป็นเลือดใคร

นายอุเทน อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองกับภรรยาชอบดื่มเหล้าด้วยกันทุกวัน มีปากเสียงกันบ้างเวลาเมา ล่าสุดตอนกลางคืนได้นั่งดื่มสุรากันจนเมา ตนเองเมามาก จึงขอเข้านอนก่อน ไม่ทราบว่าภรรยาออกไปนอนที่รถตอนไหน กระทั่งตื่นเช้ามาเห็นภรรยานั่งหลับอยู่ในรถ จึงไปเรียกแต่ภรรยาไม่ลงมา ก็ไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าภรรยาคงไม่พอใจเขา กระทั่งบ่าย 2 โมง ก็ไปเรียกอีกครั้ง คราวนี้พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนบาดแผลที่หัวและขาของเขา เกิดจากการล้ม

ตำรวจเห็นว่า นายอุเทนให้การวกวนและมีพิรุธหลายอย่าง จึงคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.จอมบึง

ด้านนายวุฒิ สิริพิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.ปากช่อง กล่าวว่า ปกติไม่ได้รู้จักกับผู้ตายและสามี ทั้งสองคนเป็นประชากรแฝงที่มารับจ้างเฝ้าบ้านให้ญาติ แต่ก็มักจะเห็นทั้งคู่ไปนั่งดื่มเหล้ากันที่หน้าปากซอยเป็นประจำ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต คงจะต้องให้ตำรวจพิสูจน์ก่อน

เช้านี้ ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ไปคุยกับ น.ส.ทราย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี เจ้าของร้านชำ ห่างจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ ประมาณ 500 เมตร กล่าวว่า รู้จักสองผัวเมียนี้ค่อนข้างคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะทั้งคู่ชอบมาซื้อเหล้าที่ร้านและนั่งกินหน้าร้านเป็นประจำทุกวัน วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 4-5 ขวด เหล้าขาว 35 ดีกรี บางวันเมาหนักก็ให้นอนที่ร้าน ซึ่งมีบ้างที่เห็นทั้งคู่มีปากเสียงเถียงกันเวลาเมา แต่ไม่เคยเห็นถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน

ส่วนเรื่องการตายของฝ่ายหญิง ยอมรับว่า ยังแปลกใจ ไม่อยากคิดว่าฝ่ายชายเป็นคนลงมือฆ่า ขอรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน สำหรับเรื่องบาดแผลที่ปากของฝ่ายหญิง ที่ผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ปากฉีก มีรอยเย็บ เกิดจากการที่ฝ่ายหญิงหกล้ม ตอนเดินถือชามแกงไปให้สามี และเศษชามแกงที่แตกเลยบาดปาก ซึ่งตอนนั้น ทั้งคู่มาเรียกตัวเองให้ไปช่วยพาส่งโรงพยาบาล และเหตุเกิดมาประมาณเกือบเดือนแล้ว

จากนั้นเข้าไปตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ พบปิดเงียบ จึงไปพูดคุยกับคุณยายข้างบ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เคยได้ยินทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเวลาเมา แต่ไม่เคยเห็นทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งทั้งคู่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณปีกว่า มาคอยเฝ้าบ้านให้กับน้าสาวของฝ่ายชายที่อยู่เมืองนอก โดยในคืนเกิดเหตุ ก็ไม่ได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้วเพิ่งมาทราบ ตอนที่มีตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และบอกว่าฝ่ายหญิงเสียชีวิตปริศนาภายในรถ

ด้าน แม่ของอุเทน สามีของผู้ตาย กล่าวว่า หลังทราบข่าวก็ตกใจรีบเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาหาลูกชาย ทั้งตัวเองและลูกชายยังอยู่ในอาการตกใจ ไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะเสียชีวิต และลูกชายต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย เชื่อว่าลูกชายไม่ใช่คนลงมือฆ่าเมีย เพราะลูกชายขาไม่ค่อยดี เดินยังจะไม่ไหว แต่ยอมรับเรื่องทั้งคู่ชอบกินเหล้า และเวลาเมาก็ทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย ส่วนเรื่องคราบเลือดที่ประตูหน้าบ้าน ก็เป็นเลือดของลูกชายเอง เกิดจากการหกล้ม ได้ 3-4 วันแล้ว ก่อนที่เมียจะตาย ซึ่งที่หัวของลูกชายก็ยังมีแผลอยู่

ขณะที่ช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจได้เชิญตัวนายอุเทนไปสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีประเด็นสงสัยอีกหลายประเด็น และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าสามีเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป