สังคม

กมธ.งบประมาณฯ ปรับลดงบปี 66 กว่า 7,600 ล้านบาท

โดย nutda_t

10 ส.ค. 2565

257 views

นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 แถลงว่า เมื่อวานนี้(9 ส.ค.) คณะกรรมาธิการฯได้พิจารณาเป็นครั้งสุดท้าย โดยได้มีการลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นรายมาตรา และพิจารณารับรองบันทึกการประชุม และรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ทั้งนี้ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้มีมติปรับลดงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 7,644,243,800 บาท โดยหน่วยงานที่ถูกปรับลดมากที่สุด 3 อันดับ คือ

1.กระทรวงกลาโหม ลดลงจำนวน 2,778,134,500 บาท



2.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลดลงจำนวน 742,208,000 บาท



3.กระทรวงศึกษาธิการ ลดลงจำนวน 737,486,100 บาท



ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอแปรเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยใช้งบประมาณที่มีการปรับลดจำนวน 7,644,243,800 บาท มาแปรเพิ่มงบประมาณจำนวน 10 รายการ ดังนี้



1.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 500,000,000 บาท



2.เงินอุดหนุนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขของสถานีอนามันถ่ายโอน (องค์การบริหารส่วนจังหวัด 49 แห่ง) จำนวน 1,840,550,000 บาท



3.เงินอุดหนุนการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงขั้นพื้นฐาน จำนวน 2,359,853,000 บาท



4.กรมการข้าว โครงการปรับปรุงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 2566 จำนวน 1,256,000,000 บาท



5.กรมการข้าว โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 1,021,656,000 บาท



6.สำนักงานอัยการสูงสุด เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายดำเนินงาน จำนวน 230,000,000 บาท



7.สำนักงานศาลยุติธรรม เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายดำเนินงาน จำนวน 192,284,300 บาท



8.สำนักงาน ป.ป.ช. เงินอุดหนุนผลผลิตการดำเนินการป้องกันปราบปรามการทุจริต จำนวน 154,123,100 บาท



9.สำนักงาน กกต. เงินอุดหนุนแผนงานบุคลากร จำนวน 81,577,400 บาท



10.ค่าใช้จ่ายพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ ศอ.บต. จำนวน 8,200,000 บาท



ขณะที่หน่วยงานที่ไม่มีการปรับลดงบประมาณ คือ กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานอื่นของรัฐ สภากาชาดไทย และส่วนราชการในพระองค์



นายบัญญัติ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทางคณะกรรมาธิการฯจะจัดทำเอกสารเพื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 17-19 ส.ค. 2565 เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรจะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน นับแต่วันที่ร่าง พ.ร.บ.มาถึงสภา



ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังได้มีข้อสังเกตว่าการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลยังไม่ค่อยสอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน จึงได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลควรหามาตรการเพิ่มรายได้ให้รัฐ เช่น การเพิ่มจำนวนคนที่เข้าสู่ระบบภาษีรายได้ การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดก รวมทั้งการพิจารณาภาษีรูปแบบใหม่ เช่น ภาษีลาภลอย และภาษีกำไรจากเงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงรัฐบาลควรหามาตรการเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของโครงสร้างงบประมาณในระยะยาว ผ่านการลดสัดส่วรของงบประมาณรายจ่สยที่ตายตัวและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ในแต่บะปีให้เหลือเท่าที่จำเป็น และการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเงินนอกงบประมาณ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ