พีระพันธุ์ ยันรวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่พรรคอะไหล่พปชร. พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวก่อนการประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า ตน และนายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ ว่าที่เลขาธิการพรรค ได้คุยกันมาตลอดว่าถ้าหากได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้เข้ามาบริหารพรรค จะทำงานในรูปแบบไหน ซึ่งตน และนายเอกนัฐ เป็นนักการเมืองมานาน ก็พร้อมที่จะรับมือกับการเลือกตั้งตลอดเวลา และตั้งเป้าเหมือนทุกพรรคว่าจะให้ได้จำนวนส.ส.มากที่สุด และจากการทำงานมาในระดับหนึ่ง ก็เชื่อว่าจะได้ส.ส.เขตมากพอสมควร และจะพยายามส่งให้ครบทุกเขต



พร้อมยืนยันว่าการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เน้นตัวบุคคล เน้นที่แนวทางการทำงานชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งหากพรรคการเมืองไหนมีการทำงานแนวนี้ ก็สามารถร่วมงานกันได้ เมื่อถึงเวลานั้น คนที่มารวมกันจะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ก็ว่ากันไป แต่วันนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครเป็นนายกฯ เพราะยังไม่รู้ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล



ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกพรรคไหนมามากที่สุด อย่างไรก็ตามส่วนตัวในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องมีความพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เหมือนทุกพรรค เพราะเป็นนักการเมือง ต้องพร้อมรับหน้าที่ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน



ส่วนที่มองว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคอะไหล่ของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครมอง แต่ตนไม่ได้มองเช่นนั้น ตนเป็นเพียงสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคนเป็นสมาชิกของพรรคนี้ ไม่ได้ขึ้นตรงกับพรรคอื่น และตนไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ ต่างคนก็ต่างทำงาน



พร้อมระบุด้วยว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังไม่ได้เจอกัน และไม่ได้พูดคุยกัน เรื่องที่แยกมาทำงานพรรคนี้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับพรรคพลังประชารัฐ



ส่วนที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ เพียงแต่ไปรายงานการทำงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น และไม่ได้ทาบทามให้ พลเอกประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค และตนเพิ่งมาเป็นสมาชิกพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตั้งแต่เป็นสมาชิกก็ยังไม่มีข่าวนี้ และยังไม่มีการพูดคุยกันว่าให้พลเอกประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค



นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะมีนักการเมืองทยอยเข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเรื่อยๆ ส่วนจะมองว่าเป็นบิ๊กเนมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนมอง บางคนอาจจะบอกว่าเซอร์ไพรส์ บางคนอาจจะบอกว่า คนนี้ไม่น่ามาได้เลย แล้วแต่คนจะมองว่าเป็นเหล้าเปล่าในขวดใหม่ แต่ส่วนตัวมองว่าใหม่เสมอ