กองทุนประกันเผย ผู้เบิกเคลมประกันโควิด ตกค้างอีกกว่า 7 แสนคน

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 65 นายชูฉัตร ประมูลผล รองเลขาธิการด้านกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระบบอิเลกทรอนิกส์และข้อมูลผลการตรวจ RT PCR กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อการพัฒนาระบบการรายงานผลจากการตรวจวิเคราะห์ สำหรับการใช้เป็นหลักฐานเบิกเคลมประกัน

นพ.ศุภกิจ ระบุว่า การทำข้อมูลผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการเป็นเรื่องพื้นฐานที่แสดงให้เห็นว่า การเข้าถึงการตรวจของประชาชนมีความพร้อม และมีความแม่นยำ โดยในขณะนี้มีข้อมูลการรายงานกว่า 20 ล้านข้อมูลที่อยู่ในระบบอิเทคทรอนิกส์ จากห้องตรวจจ 500 แห่ง ที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทย์ เมื่อมีการลงนามฯ จะช่วยลดภาระการเข้ามาทำเอกสารของประชาชน เพื่อการใช้ประกอบการเคลมประกัน ทั้งนี้ ระบบการตรวจข้อมูลผลการตรวตติดเชื้อ จะใช้ระบบออนไลน์ที่มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับอนุญาติให้เข้าถีงข้อมูลเท่านั้น เพื่อให้อยู่บนพื้นฐานข้อกฎหมายเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เชื่อว่าจะช่วยลดระยะเวลาการพิจารณาเอกสารที่ไม่ชัดเจนให้รวดเร็วขึ้น โดยจะไม่มีการนำข้อมูลด้านสุขภาพซึ่งถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

นายชนะพล กล่าวว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด มีการจัดทำประกันภัยโควิด-19 เจอแจกจบ โดยช่วงที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายเคลมประกันไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท และพบมีบริษัทผู้ให้บริการประกันภัยปิดกิจการ จากประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน เป็นเหตุให้หลายบริษัทผู้ให้บริการประกันภัย ต้องทยอยปิดกิจการ โดยส่วนของประชาชนที่ได้รับผกระทบเรื่องการเบิกเคลมเงินประกันในขณะนี้ ยังมีเรื่องยื่นค้างเบิกอยู่อีกว่า 7 แสนคน ที่คาดว่าจะต้องใช้เงินเพื่อจ่ายเคลมกว่า 7 หมื่นล้านบาท

โดยทางกองทุนในฐานะผู้แทนได้พยายามเร่งกระบวนการจัดเคลมประกันให้ ผู้ซื้อประกัน ทุกราย ขั้นตอนในการเบิกเคลมขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กว่า 100 คนเร่งพิจารณาเอกสารรับรองต่าง ๆ โดยเฉพาะผลรับรองการตรวจการติดเชื้อ RT PCR ซึ่งสามารถพิจารณาได้ 400-500 รายต่อเดือน แต่หลังมีการลงนามที่จะใข้ระบบข้อมูลออนไลน์โดยตรวจสอบจากเลขประจำตัวประชาชน จะเร่งกระบวนสามารถพิจารณาได้ 2,000-3,000 รายต่อเดือน ส่วนของเงินกองทุนที่เตรียมสำรองจ่ายคืนผู้เอาประกัน ในขณะนี้มีสำรอง 3,000 ล้านบาm

อย่างไรก็ตาม ในปี 66 เตรียมแผนการหารือ หน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดหาวงเงินมาเพื่อสำรองจ่ายการเบิกเคลม โดยแผนหนึ่งคือการเพิ่มอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนฯ จากผู้ประกอบการ เงินอุดหนุนจากรัฐ และหน่วยต่าง ๆ และอาจมีการกู้เงินเพิ่มเติม คาดว่าจะมีเงินเข้ากองทุนสำรองเพื่อการจ่ายเคลมผู้เอาประกัน ประมาณ 6,000 ล้านบาท