สังคม

ชายเมาคลั่งทุบศาลเจ้าพ่อโค้งโพธิ์ ไม่พอใจเจ้าพ่อไม่จริงใจ ให้หวยไม่ถูก

โดย nutda_t

29 ก.ค. 2565

398 views

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งทุบข้าวของและพยายามพังศาลเจ้าพ่อโค้งโพธิ์ หรือหลวงปู่เอี่ยว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ขาออก มุ่งหน้าบางปู ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นศาลเก่าแก่ที่ชาวบ้านกราบไหว้กันมาเกือบร้อยปี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ



พบชาย อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ส่งเสียงโวยวายและขว้างปาข้าวของ ซึ่งเป็นตุ๊กตาสาวสีขาว ตุ๊กตาไก่ และรูปสัตว์ต่าง ๆ ที่ทำด้วยปูนพลาสเตอร์ ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้และนำมาแก้บน ที่วางอยู่ขอบระเบียงของศาลลงมาที่พื้นถนนจนแตกกระจาย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันควบคุมตัวชายคนดังกล่าว แต่พยายามขัดขืนไม่ยอมให้จับกุม เจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนไฟฟ้าช็อตเพื่อให้ยอมสงบ ก่อนเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบ ในตัวไม่พบเอกสารว่าชายคนดังกล่าวชื่ออะไร และอยู่ที่ไหน



ด้านชายผู้ก่อเหตุ ให้การไม่รู้เรื่อง พูดวกไปวนมา เนื่องจากมึนเมาสุราอย่างหนัก พูดแบบอ้อแอ้ว่า ตนก่อเหตุจริง ทำลงไปเพราะว่าปู่ที่ศาลแห่งนี้ให้หวยตนเองไม่ถูก ก่อนหน้านี้ตนเองเคยมาขอหวยที่ศาลแห่งนี้ เข้าใจว่าปู่ให้หวย 04 แต่ปรากฎว่าหวยออก 405 จึงไม่ถูก พอมาวันนี้จึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์มาทวงถามหาความจริงใจจากปู่ เพราะปู่ไม่จริงใจ ให้หวยไม่ถูก จึงตัดสินใจยกหุ่นปั้นม้าลายตัวใหญ่ทุบศาล และขว้างปาหุ่นสัตว์ต่าง ๆ จนพังพินาศ ก่อนจะมีชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นเข้าห้ามปราม



ขณะชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นชายคนดังกล่าว กำลังหยิบข้าวของบนศาลลงมาขว้างปากับพื้นจนได้รับความเสียหาย และพยายามจะเข้าไปรื้นค้นบนศาล ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวบ้านที่กราบไหว้กันมาเกือบร้อยปี ซึ่งตอนนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์เลยไปแล้ว จึงได้ขับรถวนมาอีกครั้ง และไปตามเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิ มาช่วยกันจับกุมตัวชายคนดังกล่าวเอาไว้



ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่าศาลแห่งนี้ตั้งมานานเกือบร้อยปี ที่ผ่านมามักจะมีคนมาขอโชคลาภและสำเร็จกันหลายคน โดยจะนำหนังกลางแปลงมาฉายแก้บน และบางชาวบ้านก็จ้างคนมารำถวาย คนในพื้นที่ต่างรู้ดีและจะบีบแตรทักทุกครั้งเวลาขับรถผ่าน



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชายคนดังกล่าวไปสงบสติอารมณ์ ก่อนจะประสานแจ้งญาติมารับตัวกลับไป ส่วนความเสียหายจะต้องรอผู้ดูแลศาลมาสำรวจอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากชายคนดังกล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ