สาววัย 29 ปี ร้องทุกข์เจอหนุ่มทักแชทอ้างเจอมือถือทำหล่นก่อนโดนขู่กรรโชกทรัพย์

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวอัยย์ดา  29 ปี ว่ามีวัยรุ่นชายได้ทักแชทข้อความส่วนตัวเข้ามาว่า สามารถเก็บโทรศัพท์มือถือไอโฟน รุ่น XR ไว้ได้ และขอเรียกค่าสินน้ำใจเป็นเงิน 2,000 บาท โดยแลกกับการคืนโทรศัพท์มือถือให้ หลังนางสาวอัยย์ดา ธัญญ์ธราพัฒน์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนมื่อ 2 เดือนที่แล้วโดยระบุว่า

เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค. นุ่นเกิดอุบัติเหตุ ถ.ศรีภูวนารถ อำเภอหาดใหญ่ ประมาณเวลาตี03.00 ในขณะที่รถเสียหลักล้มโทรสัพมือถือไอโฟน XR สีดำได้หล่นหาย พร้อมบัตรประชาชน ใครพบเห็น ติดต่อ กลับเบอร์ 06379420-- นะค่ะมีรางวัลให้ค่ะ



จากการตรวจสอบในแชทข้อความพบว่าวัยรุ่นชายคนดังกล่าวใช้ขื่อเฟซบุ๊ก คำพูดแสนห้า การกระทำแสนเหี้ย เบื้องต้นทราบชื่อ นายเอกราช  อายุ 36 ปี ซึ่งได้มีการใช้ข้อความในเชิงขู่กรรโชกทรัพย์และบังคับให้ นางสาวอัยย์ดา ธัญญ์ธราพัฒน์ จ่ายเงินเพื่อแลกกับการคืนโทรศัพท์มือถือและยังมีการถอดอุปกรณ์รองซิมการ์ดเพื่อโชว์หมายเลขอีมี่ หรือ หมายเลขเครื่องซึ่งหมายเลขดังกล่าวตรงกับาพัฒน์ ไม่ยินยอมตกลงจ่ายค่าสินน้ำใจแต่อย่างใดเพราะเข้าข่ายขู่กรรโชกทรัพย์





ล่าสุดที่สถานีตำรวจภูธรคอหงส์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นางสาวอัยย์ดา ธัญญ์ธราพัฒน์ พร้อมญาติได้เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับทาง พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ ก่อนสั่งการให้ พ.ต.ท.โชคทวี จันทร์ทองอ่อน รอง ผกก.สอบสวน.สภ.คอหงส์ รับเรื่องดังกล่าวเพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย





จากการสอบถาม นางสาวอัยย์ดา อายุ 29 ปี ได้เล่าว่า วันนั้นหนูเลิกงานประมาณ 03.00 ที่นี่เหมือนรถตัดหน้าละหนูรถเสียหลัก หนูก็สลบตอนนั้น พอดีกู้ภัยมารับมาส่งที่โรงพยาบาล โทรศัพท์กับบัตรประชาชนหนูหาย หนูก็ได้ถามกับทางกู้ภัยเขาก็ไม่เห็น หนูก็ได้โพสต์ลงในกลุ่มHatyai z โพสต์ลงแต่ก็ไม่เจอโทรศัพท์ ที่นี่คนที่เก็บได้ก็ทักมาเมื่อวานนี้ 2 เดือนละค่ะหลังเกิดเหตุ เขาขอเรียกเงิน2000

เขาบอกว่าจะส่งโทรศัพท์คืนให้ขอเป็นค่าสินน้ำใจหนูก็รู้สึกแบบไม่โอเคเลย ไม่ได้มีการต่อรองอะไรถ้าเราไม่โอนเงินไปเขาจะขายโทรศัพท์ของเราที่เก็บได้ ท้อนะคะไม่หวังจะได้คืนแล้ว เขาก็เงียบไปเลย หนูได้มาทราบเมื่อวานเขาได้ขายโทรศัพท์ไปแล้ว คือมันรู้สึกแย่มากค่ะที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ดูแลและทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่าง



ทางด้าน พ.ต.ท.โชคทวี จันทร์ทองอ่อน รอง ผกก.สอบสวน.สภ.คอหงส์ เปิดเผยว่า กรณีการเจอของนะครับ ซึ่งมันมีกฎหมายกำหนดไว้นะครับว่า ต้องส่งมอบทรัพย์สินคืนให้เจ้าของแจ้งแก่ผู้ของหายเจ้าของคนที่มีสิทธิจะรับของคืนหรือว่าส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 3 วันและแจ้งให้ผู้จัดการได้ทราบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่เจอ ซึ่งถ้าของนั้นเป็นของที่เจ้าของกำลังติดตามซึ่งกฎหมายแพ่งได้กำหนดไว้ ถ้าเกิดว่าท่านไม่ทำท่านไปเก็บของไว้เนี้ย ไม่ส่งมอบ ก็อาจจะดูเป็นกรณีก็มีเรื่องของการลักทรัพย์แล้วก็เรื่องของการยักยอกทรัพย์ ถ้าเกิดท่านติดต่อหาเจ้าของละขอค่าเก็บของก็จะเข้าในเรื่องของความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ซึ่งอยากแนะนำให้คนที่เก็บของได้เนี้ย ให้ปฏิบัติตามนะครับ เพราะว่าของเนี้ยที่เจ้าของติดตามเนี้ยเจ้าของก็ยังมีสิทธิ์ครอบครองอยู่ อย่าไปคิดเองนะครับว่าเขาไม่เอาแล้ว หน้าที่เราคือเจอแล้วก็ส่งมอบเจ้าหน้าที่หรือว่าติดต่อหาเจ้าของนะครับซึ่งตอนนี้ช่องทาง Facebook ช่องทางออนไลน์ได้เยอะ ในการติดตามเจ้าของนะครับ ซึ่งตามกฎหมายมีสิทธิ์รับเงินรางวัลไม่เกิน 10% หนือไม่เกิน 30,000 บาท ตรงนี้ก็เป็นไปตามขั้นตอนนะครับ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำใจนะครับ ถ้าเคจนี้เข้าข่ายกันโชกทรัพย์นะครับ ซึ่งได้มีการติดต่อทางเจ้าของผ่านทาง Messenger นะครับ ในการที่จะขอค่าคืนของถึงแม้เขาจะบอกว่าเขาจะเจอไม่ได้เป็นคนขโมย

ก็ใช่ แต่กฎหมายระบุไว้ชัดเจนนะครับ ว่าพบแล้วแล้วก็ติดต่อมาแล้วก็ส่งมอบคืนเจ้าของก็คือเป็นพลเมืองดี แต่ถ้าเกิดติดต่อมาเพื่อขอค่าคืนของ รึไถ่ของคงไม่ใช่พลเมืองดี ก็จะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดทางอาญานะครับ ก็สอบสวนปากคำของผู้กล่าวหานะครับ รวบรวมพยานหลักฐาน ก็อยากให้น้องเขาเอาหลักฐานในเรื่องของการเป็นเจ้าของของโทรศัพท์ที่หายไป หลักฐานการซื้อรึกล่องที่มีเพื่อไปยืนยันกับข้อความที่คุยกับทางคนบอกว่าเจอ ให้ยืนยันตรงกันว่า เป็นเจ้าของจริง แล้วก็พิสูจน์กันว่าหายยังไงเมื่อไหร่ ซึ่งน้องบอกว่าเกิดอุบัติเหตุวันนั้น โทรศัพท์หายและได้แจ้งความไว้แล้วก็รวบรวมพยานหลักฐาน จะได้เรียกผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหานะครับ