เช็คอาการ 'ชัยวุฒิ' หลังเด็กเพื่อไทยแฉ ยกหญิงอื่นเหนือภรรยา ผิดจริยธรรมร้ายแรง ก่อนสภาประท้วงวุ่น!

เมื่อวานนี้ (20 ก.ค. 65) นางสาวชนก จันทราทอง ส.ส. หนองคายพรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวหานายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า มีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมทำอันดี และฝ่าฝืนฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งได้ทำร้ายจิตใจภรรยาของตนเอง ซึ่งเป็น ส.ส. อยู่ในขณะนี้ด้วย อย่างแสนสาหัส

จนภรรยาต้องออกมาโพสต์ข้อความตามโซเชียลระบุว่า “ได้ทราบเรื่องของครอบครัว คนที่รักมีว่าสามีพูดกับภรรยาว่า ฉันเลือกชีวิตแบบนี้สามคนผัวเมีย เธอรับไม่ได้ก็ออกไป และ ผู้หญิงอีกคนก็มีลูกและสามีแล้วด้วย ฟังแล้วปวดหูใจเลย แต่ให้กำลังใจ” #ค่านิยมสถาบันครอบครัวที่เปลี่ยนไปค่านิยม” และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนทราบว่า รัฐมนตรีและภรรยาได้มีการหย่าร้างกันแล้ว

ทำให้ นางสาวพัชรินทร์ ซำสิริพงศ์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงว่า เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่เรื่องส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐมนตรีโดยตรง อยากให้อภิปรายตรงประเด็น ว่าการทำงานของรัฐมนตรีทุจริตอย่างไร เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่ว่าจะมีมูลค่าหรือไม่ก็ตาม จะกระทบถึงหลายบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง

ขณะที่นางสาวชนกยืนยันว่า ได้ขออนุญาตสภาในการใช้สื่อประกอบแล้ว อีกทั้งในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งรัฐมนตรีเองก็รู้แต่แรกแล้วว่าจะถูกกล่าวหาเรื่องจริยธรรมร้ายแรง นางสาวชนก ระบุอีกว่า ตนพูดในฐานะที่เป็นเพื่อนกับภรรยาของนายชัยวุฒิ ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมก็ทราบดีว่าภรรยาของนายชัยวุฒิ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ และอยู่ในที่ประชุมสภาแห่งนี้ด้วย และมั่นใจว่าเพื่อนสมาชิกอยากจะทราบข้อมูลจากตน เพื่อตัดสินใจว่าจะไว้วางใจนายชัยวุฒิหรือไม่

ทำให้กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงอีกว่า หากมีการพูดพาดพิงครอบครัว บุคคลที่สาม รวมถึงลูก ของทั้งสองฝ่าย ประธานจะต้องตรวจจริยธรรมของผู้อภิปรายด้วยว่าสมควรหรือไม่เด็กที่เขาไร้เดียงสา เมื่อโตขึ้นอาจย้อนกลับมาฟัง และหากบอกว่าภรรยาของรัฐมนตรีคือเพื่อนต้องคำนึงเพื่อน ว่าจะกระทบอย่างไร

ขณะที่นายศุภชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมระบุว่า เรื่องนี้ประธานวินิจฉัยลำบาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แม้จะเป็นความประพฤติส่วนตัว แต่ก็เกี่ยวข้องกับการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ขอผู้อภิปรายใช้คำพูดระมัดระวังและคำนึงถึงความรู้สึกของหลายฝ่าย

จากนั้นนางสาวชนก ได้อภิปรายต่อ ตอนอยู่ในฐานะแม่ของลูก พูดได้หัวอกของแม่คนหนึ่งเช่นกัน โดยได้ยกข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เรื่องมาตรฐานจริยธรรมของรัฐ โดยเฉพาะ วรรค 8 ไม่กระทำการในลักษณะล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือกระทบต่อแซ็งต่อการปฎิบัติหน้าที่ โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะจำยอม ต้องยอมรับในการกระทำนั้น และไม่นำความสัมพันธ์ทางเพศที่มีต่อบุคคลใด มาเป็นเหตุหรืออิทธิพลครอบงำ ให้ใช้ดุลยพินิจ ต่อการปฎิบัติหน้าที่ให้เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลอื่น

นางสาวชนกอภิปรายต่อว่าเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า นายชัยวุฒิครองรักครองคู่กับภรรยามานานจนมีบุตรด้วยกัน เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีพฤติกรรมกลับเปลี่ยนไป โดยเชิดชูหญิงอื่นเยี่ยงและเหนือกว่าภรรยาตัวเอง โดยเปิดภาพประกอบ

ทำให้นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.พรรคประชาภิวัฒน์ ลุกขึ้นประท้วงว่าความเป็นผู้หญิงด้วยกันต้องเห็นอกเห็นใจ ช่วงนี้จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้นไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะเป็นเรื่องที่เสียหาย เนื่องจากเป็นเรื่องของครอบครัวการนำรูปมาขึ้นถูกต้องหรือไม่ มีการตรวจสอบรูปนี้แล้วหรือไม่

ทำให้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่าเรื่องนี้ถูกบรรจุในญัตติของฝ่ายค้านและเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเกิดความเสียหายต่อการปฎิบัติราชการ เพราะรู้กันอยู่ว่าบุคคลนี้เข้าไปมีส่วนก้าวก่ายในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในกระทรวง และพบว่ามีเรื่องชู้สาวจริง ทุกคนรู้สื่อมวลชนรู้และสังคมก็รู้

ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปรายของนางสาวชนกส.ส.หญิงจากพรรคพลังประชารัฐก็มีการอภิปรายต่อเนื่องเป็นระยะ

ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ขอให้ประธานใช้ข้อบังคับข้อที่ 70 ควบคุมการอภิปราย หากเห็นว่าอภิปรายพอสมควรแล้วสามารถให้หยุดการอภิปรายได้

ด้านนายศุภชัย ทำหน้าที่ประธานระบุว่ายังสามารถให้อภิปรายต่อได้

ขณะที่นางสาวชนก ก็ยืนยันว่าตนเองยังอภิปรายอยู่ในญัตติ โดยตราบาปที่เพื่อนสมาชิกได้กล่าวอ้าง ตนเองไม่ได้ทำเพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่

จากนั้นประธานในที่ประชุมได้ขอร้องไม่ให้นางสาวชนกอภิปรายเรื่องนี้ต่อ // ทำให้นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นประท้วงด้วยอารมณ์ว่า นี่เป็นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจประธานจะมาใช้วิธีแบบนี้ปิดปากฝ่ายค้านไม่ได้ ประธานที่ประชุมยืนยันไม่ได้ปิดปากฝ่ายค้าน แต่ให้อภิปรายมาพอสมควรแล้ว

จากนั้น นางสาวชนกอภิปราย ต่อก่อนจะจบว่า ตนเองอภิปรายนายชัยวุฒิในคุณสมบัติตามประมวลกฎหมายจริยธรรม และญัตติอภิปรายที่ได้ยื่นไปแล้ว ไม่อาจไว้วางใจนายชัยวุฒิได้เพราะทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่มีคุณสมบัติ มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงาม รวมทั้งรักษาเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทย จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอื้อประโยชน์ในกระทรวงหรือไม่

ก่อนจะปิดท้ายด้วยกลอนว่า “อันตัณหาราคะนั้น แสนสาหัส ถ้าใครตัดเสียได้ ฉันให้ถอง อุตส่าห์เรียนวิชา หาเงินทอง ก็เพราะของสิ่งเดียว มันเกี่ยวกวน”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/tlqydEKOMXY