สังคม

ประเสริฐ-จุรินทร์ โต้กันเดือดปมทุจริตถุงมือยางภาค 2 มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้าน

โดย nutda_t

20 ก.ค. 2565

39 views

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวหา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทุจริตถุงมือยางภาค 2 รู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต เนื่องจากกลุ่มผู้ทุจริตเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดและแต่งตั้งขึ้นมา โดยมีเจตนาทอดเวลาจนกลุ่มผู้ทุจริตนำเงินที่ได้มาจากการทุจริตถุงมือยางจำนวน 2 พันล้านบาท ไปฟอกเงิน จนไม่สามารถติดตามเงินมาได้ ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่กล้าปลด นายจุรินทร์ ออกจากตำแหน่ง เพราะเกรงว่าหากปลด สถานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะไม่มั่นคง นายจุรินทร์จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล



นายประเสริฐ กล่าวว่า กระบวนการฟอกเงินเริ่มจาก บ.การ์เดี่ยน ไกลฟส์ ได้รับเงินมัดจำ 2 พันล้านบาท จากการสั่งซื้อถุงมือยางจากองค์การคลังสินค้า แต่องค์การคลังสินค้ายังไม่ได้รับถุงมือยาง และปัจจุบันองค์การคลังสินค้าได้ยกเลิกสัญญากับบ.การ์เดี่ยนแล้ว



จากการอภิปรายครั้งที่แล้วเห็นได้ชัดมีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ซึ่ง ปปช.มีการแจ้งข้อกล่าวหา นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้าในขณะนั้น และผู้เกี่ยวข้องรวม 22 ราย



แต่ นายจุรินทร์ กลับจงใจไม่ปลด นายสุชาติ และหลังจากนั้นปล่อยให้เวลาผ่านมาจน นายสุชาติ หมดวาระในตำแหน่ง เพื่อไม่ให้ภัยมาถึงตัว แล้วแต่งตั้ง นายวิชัย โภชนกิจ เป็นอดีตอธิบดีกรมการค้าภายใน มาเป็นประธานบอร์ดคลังสินค้า ซึ่ง นายวิชัย มีประวัติไม่ชอบมาพากลเรื่องหน้ากากอนามัยในช่วงโควิดระบาดใหม่ๆ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต เป็นผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าซึ่งมีความสนิทสนมกับครอบครัวนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฎ์ น้องชายของนายจุรินทร์



การที่ นายจุรินทร์ ไม่กระทำการใด ๆ ส่งผล ให้เกิดความเสียหาย2 เรื่อง คือผู้กระทำผิดมีการฟอกเงิน และมีการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จในการออกหนังสือรับรองยอดเงินฝาก เพื่อนำไปจดทะเบียนสำนักทะเบียนหุ้นส่วนจังหวัดนครปฐม



มีการฟอกเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ที่โอนมัดจำ ค่าถุงมือยางให้บริษัทการ์เดียน อย่างเปิดเผยไร้ยางอาย เพราะไม่รีบอายัดเงินให้ทันสถานการณ์ทั้งที่มีเวลาเพียงพอ ส่งผลให้ผู้ทุจริตกระจายไปยังบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการสร้างบัญชีม้า ในลักษณะปกปิดอำพรางเพื่อนำเงินไปแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกันในรูปแบบการกระจายเงินสดจำนวน 1,800 ล้านบาท และมีการโอนไปโอนมาบัญชีของ ผู้บริหารบริษัทการ์เดียนและบัญชีอื่นๆอีกสามบัญชี โดยตั้งข้อสังเกตว่าส่วนมากธนาคารจะไม่มีการให้เบิกเงินสดเป็นจำนวนมากแต่กรณีดังกล่าวเป็นเหมือนลักษณะการสำรองเงินเตรียมพร้อมไว้แล้วเป็นลักษณะการถอนเงินแบบผิดปกติธนาคารได้มีการแจ้งต่อป.ป.ง.หรือไม่



นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทการ์เดียนมีการโอนเงินไปยังนิติบุคคล 8 บริษัท ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผลิตถุงมือยาง และยังมีการโอนเงินไปยังบริษัทในประเทศเกาหลีใต้จำนวน 300 ล้านบาทด้วย แล้วอาจจะโอนกลับมายังกระทรวงที่ตั้งอยู่แถวสนามบินน้ำ



และยังพบการโอนเงินให้บุคคลต่างๆกว่า 40 บัญชี ซึ่งมีหลักฐานเป็นใบเสร็จโอนเงิน ทำให้มีข้อสงสัยว่าบุคคลเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ เงินที่โอนไปไม่ได้ชำระค่าถุงมือยางเป็นการทำธุรกรรมที่ผิดปกติเป็นการฟอกเงินในลักษณะให้ตัวแทนรับเงินและถอนเงินเพื่อนำเงินเหล่านี้ไปแบ่งปันซึ่งกันและกัน หากนายจุรินทร์มีคำสั่งอายัดเงินตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2563 ความเสียหายยังไม่เกิดขึ้นแต่นายจุรินทร์กับทอดเวลาเจตนาปล่อยให้มีการฟอกเงิน



แปลกใจที่นายกรัฐมนตรีและนายจุรินทร์ที่มีหน้าที่ตรวจโดยตรง และมีอำนาจรัฐอยู่ในมือแต่ไม่มีความจริงใจในการปราบปรามและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พฤติกรรมที่ละเว้นถือเป็นการทุจริตอย่างนึง



นอกจากนี้ยังมีการโยกย้ายเงินเพื่อออกหนังสือรับรองเงินฝาก นายกรัฐมนตรีและนายจุรินทร์ ไม่ใช้อำนาจตามกฏหมายทำให้เงิน 2,000 ล้านบาท ถูกยักย้ายถ่ายเท เพื่อนำไปใช้เปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนเพิ่มทุนของบริษัทการ์เดียน จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ทำหลักฐานอันเป็นเท็จเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระเงินในลักษณะเงินสด โดยโอนเงินผ่านหลายธนาคารให้ธนาคารรับรองเงินฝากในวันเดียวกัน นายจุรินทร์ อย่าอ้างว่าไม่รู้แบบนี้โง่จริงหรือจงใจโง่



นายประเสริฐ กล่าวอีกว่าหาก นายกรัฐมนตรีหากมีเจตนายับยั้งหรือแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดการฟอกเงินจากการทุจริตก็สามารถทำได้แต่กลับเพิกเฉย เสมือนเขียนกฎหมายด้วยมือแต่ลบด้วยเท้า จึงต้องกล่าวหานายกรัฐมนตรีปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ รู้แต่ไม่ยับยั้ง ปล่อยปละละเลยให้ฟอกเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ



ขณะที่ นายจุรินทร์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ นายสุชาติ เป็นแบล็คเพื่อป้องกันภัย ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ 3 คน ตกเป็นแพะรับบาป กลุ่มคนทุจริตยังกินหรูอยู่สบาย การที่นายจุรินทร์ ที่ไม่กล้าแตะ นายสุชาติ ก็เป็นหลักฐานสำคัญ ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกสภาถือโอกาสครั้งนี้เป็นวาระการปราบปรามการทุจริต ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและนายจุรินทร์เพื่อไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป



ด้าน นายจุรินทร์ ลุกขึ้นชี้แจง นายประเสริฐ ว่า เป็นไปตามผู้อภิปรายได้อภิปราย คือการฉายหนังเก่าที่พูดมาเกือบ 90% เป็นเรื่องที่พูดมาแล้วในการอภิปรายครั้งที่แล้ว และตนได้ชี้แจงไปทั้งหมดแล้ว เพียงแต่มาเติมว่า ตั้งแต่วันอภิปรายถึงวันนี้ไม่มีความคืบหน้า และตนไม่กล้าจัดการอะไรกับประธานบอร์ดฯ ทั้งนี้ที่มีการกล่าวหามาไม่เป็นความจริง และโกหกกลางสภาฯ แอบอ้างผลงานว่านำเรื่องไปยื่นป.ป.ช. และอ.ค.ส. ไต่สวน 22 ราย เพราะป.ป.ช. ไต่สวนไม่ใช่เอาสำนวนของท่านไป แต่เพราะองค์การคลังสินค้าไปยื่นแจ้งให้สอบสวนคดีทุจริตเรื่องนี้ และมีความคืบหน้าและคาดว่าจะมีมติชี้มูลเร็วๆ นี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับตนในแง่ที่จะร่วมกระทำการทำการทุจริต เพราะยังไม่เคยเรียกตนไปชี้แจงกับป.ป.ช.



นอกจากนี้ที่กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าไม่จริงทั้งในที่ลับที่แจ้งและทางการไม่ทางการ และทันทีที่ทราบเรื่องก็เข้าไปบริหารจัดการเป็นลำดับ ภารกิจ อคส.ที่ต้องทวงเงินคืนจากการทุจริต ความจริงไม่ใช่แค่เรื่องถุงมือยาง แต่มีอย่างน้อยคือเงิน 3 ก้อนใหญ่ที่จะต้องดำเนินการ และทุกกรณีมีความคืบหน้า



เงินส่วนแรกคือการทุจริตถุงมือยาง 2,000 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย ตอนที่สอง 540,861 ล้านบาท ที่ต้องเรียกค่าเสียหายจากการการทุจริตจำนำข้าว สมัยที่พวกท่านเป็นรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่จบและไม่เห็นท่านทวงว่าล่าช้า เงินก้อนที่สาม ทุจริตจำนำมันสำปะหลัง คู่แฝดทุจริตจำนำข้าว ที่พวกท่านเป็นรัฐบาล ต้องทวงคืนทั้งหมด 33,000 ล้านบาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ