หมอชลน่าน ขู่รัฐบาล ไม่ตายในสภา ก็ตายในสนามเลือกตั้ง

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้จะเริ่มต้นด้วยการเปิดญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน จะขยายความในญัตติเพื่อชี้ประเด็นให้สมาชิกได้อภิปราย ซึ่งจะเริ่มจากพรรคภูมิใจไทย ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะประเด็นการออกนโยบาย การออกกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้อภิปรายที่เราคัดมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก



ส่วนพรรคภูมิใจไทย ฝ่ายค้านมีใบเสร็จที่จะเอาผิดได้เลยหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า คำว่าใบเสร็จทางการเมือง คือข้อมูลและข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และผลการกระทำต่อประเทศชาติบ้านเมือง ประชาชน ที่ฝ่ายค้านจะนำมาแสดงให้ชัดเจน ซึ่งรัฐมนตรีส่วนใหญ่ที่เรากล่าวหา เรื่องความผิดพลาด บกพร่องล้มเหลวถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การจงใจฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม รวมถึงส่อทุจริต เอื้อประโยชน์ ซึ่งเรามีข้อมูลและหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นในสภา



ส่วนหมัดเด็ดจะโฟกัสไปที่นโยบายกัญชาเสรีใช่หรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องที่มีผลกระทบกับประชาชนในภาพกว้าง และจะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ ดังนั้นเรื่องกัญชาเสรีถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราให้ความสนใจ



นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวว่า สำหรับผู้อภิปรายที่น่าสนใจในวันนี้ คือ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะวิปฝ่ายค้าน และขอให้ทุกคนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งขอรับรองว่าตลอด 4 วัน มีเรื่องสนุกทุกวัน และในวันสุดท้าย จะเป็นการสรุปภาพรวมของผู้อภิปรายทั้ง 40 คน โดยประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า “เด็ดหัวสอยนั่งร้าน” ไม่ตายในสภา ก็ไปตายในสนามเลือกตั้ง



นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ยังไม่ประสานเพื่อขอร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ซึ่งเราเปิดกว้างในการตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว เรายินดีหากจะมีส่วนร่วมทั้งในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือฝ่ายค้านอิสระ แต่ก็คงต้องไปดูว่าจะแบ่งเวลากันอย่างไร เพราะเราจัดสรรเวลาให้สมาชิกค่อนข้างลงตัวแล้ว แต่ก็พอที่จะดูเวลาได้ หากมีข้อมูล หรือประเด็นที่ดี ให้เห็นภาพถึงความผิดพลาดและความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้