สังคม

หนุ่มติดโควิดไร้ รพ.รักษา ไปหาคลินิกได้แค่ฟ้าทะลายโจรยาพารา-ลูกอมแก้เจ็บคอ

โดย onjira_n

18 ก.ค. 2565

219 views

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามกับคุณแม่ของผู้ป่วยโดยคุณแม่ระบุว่าผู้ป่วยน่าจะติดเชื้อโควิดมาจากที่ทำงานซึ่งผู้ป่วยทำงานที่ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจังหวัดสมุทรปราการ ดูผู้ป่วยได้เดินทางกลับมาที่บ้านใน จตุโชติ 13 แขวงออเงินเขตสายไหมกทม เมื่อวัน พฤหัสบดี ที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งก่อนกลับมาก่อนกลับมาบ้านนั้น ผู้ป่วยได้ตรวจโควิดแล้วไม่พบเชื้อแต่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม ช่วงเช้าผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตามร่างกาย และเจ็บคอตนจึงได้ตรวจ ATK พบว่าขึ้นสองขีด จึงเดินทางไปที่คลินิคแห่งหนึ่งแถวสายไหมที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ เพื่อทำการตรวจรักษาแต่ทางคลินิคไม่ตรวจโควิดให้และให้ยามา 3 ตัว ได้แก่ ยาพารา ฟ้าทะลายโจร และลูกอมบรรเทาอาการเจ็บคอกลับมาแทน


จากนั้นเมื่อผู้ป่วยเดินทางกลับมา ผู้ป่วยก็ขับรถเข้าไปจอดในดงกล้วยทันทีไม่กลับเข้ามาบ้าน ตัวให้เหตุผลกับคุณแม่ว่ากลัวนำเชื้อมาติดกับคนในบ้านโดยเฉพาะคุณแม่ซึ่งมีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด แล้วหลังจากนั้นทราบว่าตกกลางคืนวันอาทิตย์ผู้ป่วยมีอาการที่หนักขึ้นจึงได้ติดต่อไปยังเพจสายไหมต้องรอดเพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือซึ่งในเบื้องต้นคุณเอกภพ ได้เดินทางมาพร้อมนำยาฟาร์วิมามอบให้คุณผู้ป่วย ซึ่งทราบมาว่าล่าสุดเมื่อเช้าอาการของผู้ป่วย ดีขึ้นบ้างแต่ยังมีความรู้สึกหนาวไข้อยู่ โดยผู้เป็นแม่ได้แสดงความเป็นห่วงแก่ลูกและหวังว่าจะให้ลูกหายป่วยโดยเร็วซึ่งทางเพจสายไหมต้องรอดแล้วคุณเอกก็แจ้งมาว่า จะช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด


ผู้สื่อข่าวยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับผู้ป่วยรายนี้ซึ่งเบื้องต้นผู้ป่วยแจ้งมาว่าขณะนี้ผู้ป่วยยังคงมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวหนาวๆร้อนๆปวดหัวปวดหน้าอกหายใจไม่เต็มปอดแต่โดยภาพรวมดีขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยผู้ป่วย แจ้งว่าตนมีโรคประจำตัวคือหอบหืดและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลำดับ Timeline มาว่าตน ประกอบอาชีพขายของเปิดท้ายร้านอาหารที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งตนคาดว่าน่าจะติดเชื้อจากที่ร้านโดยผู้ป่วยเดินทางกลับมาบ้านเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคมช่วงหัวค่ำหลังจากนั้นช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคมผู้ป่วยเริ่มมีอาการหนาวๆร้อนๆพอตกค่ำวันเดียวกัน ก็มีอาการปวดเนื้อปวดตัวและหายใจไม่ออกเช้าวัน อาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคมตนจึงตรวจเอทีเคพบว่าขึ้น 2 ขีดผู้ป่วยจึงได้โทร ไปที่โรงพยาบาลภูมิพล แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าเตียงไม่พอและมีค่าใช้จ่ายที่สูงจึงไม่สามารถรับมารักษาตัวได้ผู้ป่วยจึงเดินทาง ต่อไปยังคลินิกแห่งหนึ่งในเขตสายไหมที่ตนมีสิทธิ์บัตรทองและเป็รหน่วยปฐมภูมิ


ซึ่งทางคลินิกก็ทำได้เพียงแค่ส่งยาฟ้าทะลายโจรยาพาราและลูกอมแก้เจ็บคอมาให้ ในช่วงบ่ายตอนเดินทางกลับมาถึงบ้านตนก็นำรถ ไปจอดใต้ดงกล้วยทันทีเนื่องจากที่บ้านมีแม่และญาติพี่น้องหลายคนซึ่งตนกลัวว่าจะนำเชื้อมาติดกับคนในบ้านโดยเฉพาะแม่ที่มีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืดและที่บ้านไม่มีที่กักตัว ตนจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในรถใต้ลุงกล้วย ซึ่งต่อมาอาการของผู้ป่วยก็หนักมากขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจติดต่อเพจสายไหมต้องรอดตอนประมาณ 17:00 น แล้วหลังจากนั้นคุณเอกภพ ก็ได้เดินทางมาพบ ในเวลาประมาณ 1 ทุ่ม โดยได้มอบยาฟาวิก 1 กระปุกยาแก้ไอ 2 ขวดยาพารา 2 แผงยาอมแก้เจ็บคอและจิฟฟี่ซึ่งผู้ป่วยเล่าว่าหลังจากที่ได้รับยาฟาร์วิแล้วก็มีอาการที่ดีขึ้นแต่ยังคงเหลือการที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ายังคงมีเจ็บหน้าอกและค่าเนื้อครั่นตัวอยู่บ้าง


ทั้งนี้ทางผู้ป่วยแจ้งว่าคุณเอกจะเดินทางมาพบอีกครั้งในช่วงบ่ายๆเพื่อตรวจค่าออกซิเจนในเลือด ผู้ป่วยระบุอีกว่า ณ ขณะนี้ตนได้รับความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดเป็นการเพียงพอแล้วส่วนเรื่องของเตียงรักษาพยาบาลนั้นผู้ป่วยระบุว่าณขณะนี้ตนขอสังเกตอาการก่อนซึ่งยังมีความทรงตัวหากมีอาการหนักอาจจะขอประสานเตียงโรงพยาบาลต่อไปครั้งนี้ผู้ป่วยยังได้ทิ้งท้ายว่าขอฝากให้ประชาชนสวมใส่แมสอย่างต่อเนื่องและ หมั่น ล้างมือ เนื่องจากตอนนี้โควิดกลับมาระบาดหนักอีกครั้งเราอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าเราได้รับเชื้อมาแล้ว แล้วฝากถึงภาครัฐขอให้คุมมาตรการเข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะมาตรการรองรับเตียงผู้ป่วยกลุ่ม 608 ซึ่งควรจะ มีความพร้อมและ ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที




คุณอาจสนใจ