เศรษฐกิจ
ปตท.ประเดิมส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 3 พันล้าน - 'กรณ์' ยืนกรานต้อง 'ลดค่าการกลั่น-ค่าการตลาด' แล้วจะถูกลงทันที
โดย nattachat_c
13 ก.ค. 2565
102 views
วานนี้ (12 ก.ค. 65) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บอร์ดปตท. มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤต เป็นจำนวนเงินเดือนละ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท
เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการแบ่งเบาภาระค่าพลังงานของประชาชน รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศ ทั้งนี้ จากสถานการณ์วิกฤตด้านพลังงานตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ปตท. ได้ช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชนไปแล้วกว่า 14,800 ล้านบาท
----------
ด้าน กรณ์ จาติกวณิช โพสต์เฟซบุ๊กรูปภาพบนเพจ กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij พร้อมระบุข้อความว่า
"อย่าหาว่าอะไรเลยครับ แต่ ปตท. บริจาค 3 พันล้านนี่นอกจากห่างไกล 24,000 ล้านที่ท่านรัฐมนตรีพลังงานเคยอ้างว่าจะได้รับแล้ว
การทำแค่นี้ ต้องไม่เป็นคำตอบสุดท้ายเรื่องการแก้ไขปัญหาราคา #นํ้ามันแพง แต่หวังว่าจะเป็นก้าวแรกสู่การ "ปรับโครงสร้างราคา" เพื่อลดภาระให้ประชาชน
การแก้เชิงโครงสร้างทำได้โดย #ลดค่าการกลั่น เพราะ 'ค่าการกลั่น' ยังสูงกว่าระดับที่ควรอยู่อย่างน้อย 3 บาทต่อลิตร และ 'ค่าการตลาด' เบนซินสูงกว่าระดับมาตรฐานอยู่เท่าตัว
ลดสองตัวนี้ประชาชนใช้นํ้ามันถูกลงได้ทันที!"
-----------
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการเก็บค่าการกลั่นให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งมีข้อเรียกร้องให้ใช้ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เพื่อมากำกับดูแลค่าการกลั่นน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ว่า
ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ การใช้พ.ร.บ.ต่างๆ ต้องระมัดระวังที่สุด เพราะโรงกลั่นไม่ได้มีแต่ผู้ประกอบการไทยเพียงอย่างเดียว แต่มีผู้ประกอบการต่างประเทศด้วย ซึ่งต้องพิจารณาค่าการกลั่นให้เหมาะสม และวันนี้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่
---------
เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ถึง 20 กันยายน 2565
เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัว ในระดับสูง โดยการใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในระยะสั้น และถ้าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพื่อไม่ให้กระทบ ต่อค่าครองชีพของประชาชนและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
---------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/OkE0hC17PH4