หนุ่มสุดเซ็ง นำเงินฝากตู้เอทีเอ็มแต่เครื่องขัดข้อง คนต่อคิวทำเนียน หยิบไปกว่า 2 หมื่น

นายพงศธร อายุ 35 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.50 - 18.00 น. ตนได้นำเงินสดจำนวน 75,000 บาท ซึ่งเป็นเงินหมุนเวียนของครอบครัวที่ใช้ประกอบธุรกิจ ไปฝากที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อนำเงินใส่เข้าไปในเครื่อง และเครื่องได้ตรวจนับ ปรากฎว่าที่หน้าจอขึ้นว่าทำรายการไม่สำเร็จ แล้วจอเปลี่ยนเป็นสีฟ้า จึงคิดว่าเครื่องน่าจะเออเร่อ จากนั้นเครื่องก็จ่ายเงินออกมาจำนวนมาก ซึ่งตนคิดว่าเป็นเงินครบทั้ง 75,000 บาท จึงหยิบเงินออกมา เพราะทำรายการไม่สำเร็จ โดยที่ไม่ได้ตรวจนับ ก่อนจะมาเข้าคิวเพื่อทำรายการฝากอีกตู้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน



จากนั้นก็มีชายรูปร่างสันทัน ผมรองทรง ตัวใหญ่ ใส่เสื้อกีฬา หมายเลข 4 ข้างหลังระบุว่า พระกรุนาดูน สวมกางเกงขา 3 ส่วน ใส่หน้ากากอนามัย เข้ามาทำรายการต่อ ซึ่งมาสังเกตทีหลังจากกล้องวงจรปิดว่า ชายคนดังกล่าวมีท่าทางพิรุธ มีท่าทียึกยัก มองหันกลับมาทางข้างหลัง ก่อนจะมีลักษณะหยิบเงินออกจากตู้ แล้วเบี่ยงตัวออกไป โดยที่ไม่ทำรายการ



ตนเองมาต่อคิวอยู่ที่ตู้ข้าง ๆ ก็สังเกตเห็นชายคนนี้ มองดูว่าเสื้อกีฬาสวยดี เพราะตนก็เป็นคนชอบเตะฟุตบอลเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งถึงคิวตนเข้าไปทำรายการ ก็นำเงินทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่อง ปรากฎว่าเครื่องนับเงินได้แค่ 52,000 บาท เงินหายไป 23,000 บาท ตนก็ตกใจ จึงได้ยกเลิกการทำรายการ จึงคิดว่าเงินน่าจะอยู่ในตู้เอทีเอ็ม ตู้ที่ทำรายการก่อนหน้านี้ จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร ซึ่งก็ได้รับเรื่องไว้



จากนั้นตนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจากธนาคาร ก็มาสังเกตพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนที่เอาเงินไป เพราะจากการตรวจสอบ ธนาคารแจ้งว่า ตนเองนำเงินมาเข้าตู้ เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 75 ฉบับ สามารถทำรายการได้ 23 ฉบับ ทำรายการไม่ได้ 52 ฉบับ และเครื่องทำรายการไม่สำเร็จ เพราะตนไม่ได้ดำเนินการต่อ คาดว่าชายต้องสงสัยเป็นคนกดยกเลิกรายการ แล้วนำเงินออกไป โดยไม่ทำธุรกรรมการเงินของตัวเอง



ซึ่งตนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม และได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวแล้ว ซึ่งหากใครรู้จัก หรือพบเห็นชายคนดังกล่าว สามารถเข้ามาให้ข้อมูล หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากติดต่อเพื่อนำเงินมาคืนก็จะไม่เอาเรื่อง เพราะเงินสมัยนี้หายาก ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของครอบครัว ก็ต้องเอาไปใช้จ่ายหมุนเวียนในธุรกิจ เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวอยู่รอดในยุคนี้ ถ้าไม่ใช่เงินตัวเองก็ขอให้แสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ



อยากจะฝากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า เวลาทำธุรกรรมทางการเงิน ขอให้รอบคอบ หากเครื่องขัดข้องมีเงินคืนออกมา ก็ขอให้ตรวจนับดูก่อนว่าเงินครบหรือไม่ ทำรายการฝากเงินเรียบร้อยดีหรือยัง ซึ่งตนยอมรับว่าวันนั้นตนรีบร้อน และสะเพร่าเกินไป ทำให้ต้องเสียเงิน และเสียเวลา



ด้าน พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางผู้เสียหายนำมามอบให้แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่จะได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ทราบถึงเส้นทางชายคนดังกล่าว ซึ่งหากใครรู้จัก หรืออยากจะแจ้งบาะแส ก็สามารถติดต่อมาได้ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม