อาชญากรรม

ปิดเกม ‘โจรกางเกงในตัวเดียว’ ก่อเหตุขโมยร้านไอทีดังทั่วไทย อ้างชอบกินกล้วย-สีเหลือง

โดย nicharee_m

5 ก.ค. 2565

66 views

สืบภาค 2 และ PCT 5 ปิดเกมโจร กกน.ตัวเดียวก่อเหตุขโมยทั่วไทย

ด้วยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบภาค 2 ได้รับแจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 03.00 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายก อ.เมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ เสียหายมูลค่ากว่า 1,914,895 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นสี่พันแปดร้อยเก้าสิบห้าบาทถ้วน) โดยคนร้ายเลือกที่จะลักมือถือบางยี่ห้อ แต่จะเหลือทิ้งไว้เฉพาะเครื่องที่สามารถล็อกซิมได้ แสดงถึงความเชี่ยวชาญเรื่องโทรศัพท์

หลังเกิดเหตุ บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่าคนร้ายนิยมแต่งกายโดยถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียง “กางเกงในตัวเดียว” ในการก่อเหตุก่อนลงมือกระทำความผิดจะมีการตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิฟเวอร์กล้องลักเอาไปด้วย และเส้นทางที่คนร้ายใช้เส้นทางก่อเหตุอย่างชำนาญเบี่ยงประเด็นให้เสมือน “เป็นคนพื้นที่” ซึ่งแท้จริงคนร้ายมาสำรวจที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ

ต่อมา บก.สส.ภ.2 ได้สืบทราบว่าคนร้ายคือ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี คนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมจาก ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ยังได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรมคนร้ายคดีนี้มีความเหมือนกับ

- เมื่อ 27 ม.ค. 64 ที่ภายในร้าน BANANA สาขาจังหวัดยะลา เลขที่ 65 ถ.รวมมิตร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา พื้นที่ สภ.เมืองยะลา

- เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 65 ที่ร้าน BANANA สาขาสายไหม 109 ซอย สายไหม 9 แขวง สายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.สายไหม



ซึ่งคนร้ายแต่งกายชุดก่อเหตุทั้งสามคดีเหมือนกันคือ สวมใส่กางเกงชั้นในตัวเดียวมีลักษณะ “ถอดแบบ” จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษคดีของ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ก็พบว่าก่อเหตุมาไปทั่วกว่า 9 คดี 9 พื้นที่ (สภ.เมืองยะลา , สภ.หาดใหญ่ , สภ.เมืองพัทลุง , สภ.เมืองนครศรีธรรมราช , สภ.เมืองหนองบัวลำภู , สภ.เมืองอุบลราชธานี , สภ.หัวหิน , สน.สายไหม) จนถูกเรียกว่า โจรกางเกงในตัวเดียว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งสั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และชุดปฎิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. (PCT 5) เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และติดตามของกลางที่คนร้ายขโมยไปมาให้ได้โดยเร็ว  จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 (หลังเกิดเหตุ 1 วัน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้จับกุมตัว นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง



จากการสอบสวนนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าเป็นลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายกจริง จนกระทั่งได้หลบหนีมาอยู่คอนโดย่านลาดพร้าว และเปิดห้องพักโรงแรม ย่านรามคำแหงเพื่อซ่อนโทรศัพท์ที่ขโมยมา และเตรียมพร้อมหอบของกลางโทรศัพท์ที่ขโมยมาหลายร้อยเครื่องกลับไปยังภูมิลำเนา จ.นราธิวาส แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้บุกเข้าตรวจค้นห้องพักแห่งนึ่งลาดพร้าว ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพ (ที่จับกุมตัว)

ผลการตรวจค้นพบ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส พร้อมตรวจยึดของกลางได้กว่า 79 รายการ ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมย จำนวน 31 เครื่อง โดย นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ยอมรับว่ายังซุกซ่อนโทรศัพท์ที่ขโมยมาอีกส่วนหนึ่งอยู่ในโรงแรมย่านรามคำแหง ต่อมานายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นห้องพักโรงแรมย่าน ซ.รามคำแหง 40 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลางได้อีก 70 รายการ โดยเป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมยจำนวน 58 เครื่อง โดยการลงทะเบียนเปิดห้องโรงแรม นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ได้ใช้บัตรประชาชนของเพื่อนเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการตรวจค้นทั้ง 2 จุดรวมของกลางได้ทั้งสิ้น 149 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมยมาทั้งสิ้น จำนวน  89 เครื่อง  ในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ หรือรับของโจร” และเป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับ



นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การอ้างว่า “ที่ขโมยแต่ร้าน BANANA เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลืองจึงขโมยแต่ร้านนี้ และที่ชอบถอดเสื้อผ้าให้เหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเข้าไปขโมยของเพราะมันทำเกิดความรู้สึกให้มั่นใจ รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง

และที่ขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยเพราะเมื่อปี 2564 ถูกตีข่าวว่าที่จังหวัดยะลาเป็นโจรกางเกงในโรคจิต รู้สึกไม่ชอบจึงขโมยกล้องไปด้วยทุกครั้งหลังจากคดีนั้นนั้น โดยการหาร้านที่จะก่อเหตุจะค้น google map หาร้าน BANANA แบบสุ่มตัวอย่างแล้วจะไปละแวกนั้นก่อนก่อเหตุประมาณ 3 ชั่งโมงถึง 6 ชั่วโมง สำรวจเส้นทางรอบๆ แล้วค่อยก่อเหตุหลังเที่ยงคืน โดยที่มุ่งขโมยแต่โทรศัพท์เพราะฝังใจตอนเด็กๆ ที่เพื่อนมีโทรศัพท์แต่ตนเองไม่มี จึงเริ่มก่อเหตุโดยแรกๆ ก็ลักขโมยเล็กน้อยจนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนแทบกวาดหมดร้าน

โดยเมื่อขโมยมาได้แล้วมักเอาบางส่วนไปขายและเอาเงินไปใช้ และจะนำโทรศัพท์บางส่วนไปแจกให้กับคนเร่ร่อนละแวกสนามหลวงและหัวลำโพงและบางส่วนก็จะนำไปแจกให้กับคนที่ภูมิลำเนาที่ จ.นราธิวาส โดยจะแจกทั้งเงินและโทรศัพท์ เนื่องจากตนเองเป็นคนไร้บ้านมาก่อนในลักษณะของจอมโจรโรบินฮูด แต่สื่อกลับตั้งฉายาว่าโจรกางเกงในโรคจิต”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  โจรกางเกงในตัวเดียว

คุณอาจสนใจ