สามีป่วยอัมพฤกษ์ ถูกภรรยาสวมเขา หอบเงินนับล้าน หนีไปอยู่กับชู้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชายผู้พิการ อายุ 61 ปี ว่าภรรยาที่อยู่กินด้วยกันมานานกว่า 30 ปี หลอกเอาเงินและทรัพย์สินหนีไปกว่า 2 ล้านบาท หลังตัวเองล้มป่วย ทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง โดยมีการแจ้งความไว้ ที่ สภ.บางใหญ่ แต่คดีไม่คืบหน้า



ผู้เสียหาย เล่าว่า เดิมทีอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 30 ปี โดยทำอาชีพขายผักอยู่ในตลาดบางใหญ่ กระทั่งต้นปี 60 ขณะที่ตนไปส่งผักให้กับลูกค้า ก็หน้ามืดล้มหัวฟาดพื้น จนต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก แขนขาซ้ายลีบ ก่อนจะกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นตนคิดว่าตัวเองคงไม่รอดชีวิต จึงได้ให้ภรรยาพาไปเปลี่ยนชื่อในสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่งที่เป็นชื่อตน มีเงินฝากอยู่ 2 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นชื่อภรรยาแทน

โดยบอกกับภรรยาว่า ให้เอาเงินนี้ไว้คอยดูแลตนจนกว่าจะตาย นอกจากนี้ยังเอารถกระบะไปขาย นำเงินมาซื้อรถเก๋งป้ายแดงให้ภรรยาไว้ใช้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี ภรรยาเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยดูแลกลับไม่สนใจ บางครั้งหายไปหลายวันไม่กลับบ้าน ตนจะไปหาหมอก็ไม่มีคนพาไป เงินที่ใช้รักษาตัวก็ไม่มี เพราะให้ภรรยาเอาไปหมดแล้ว จนมีปากเสียงกับภรรยาจึงขอเงินคืนจากเดิมที่ให้ไป 2 ล้านบาท ให้แบ่งเงินคืนมาให้ตนไว้รักษาตัว 1 ล้านบาท ภรรยาก็ยอม



แต่หลังจากนั้นภรรยาก็ทิ้งตนไปอยู่กับสามีใหม่ ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างร้านขายผักของตนเอง ทิ้งให้ตนต้องนอนป่วยรักษาตัวอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อภรรยาให้กลับมาดูแลตามที่เคยตกลงกันไว้ก่อนจะให้เงินไปในครั้งนั้น แต่ภรรยาก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนมาถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 ให้ช่วยตามตัวภรรยา แต่คดีไม่คืบหน้า จึงมาร้องกับสื่อให้ช่วยเหลือ