สังคม

สุดรันทด ครูเยี่ยมบ้านนักเรียน พบ 5 ชีวิต สร้างกระต๊อบในป่า ไม่มีน้ำ-ไฟใช้

โดย nutda_t

22 มิ.ย. 2565

417 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Chatchawan pimpa ซึ่งเป็นครูท่านหนึ่งที่จ.อุดรธานี ได้โพสต์เรื่องราวของครอบครัว 5 ชีวิตที่ไร้บ้าน โดยบอกว่า "จากที่ได้ไปสำรวจออกเยี่ยมบ้านนักเรียน เจอสภาพความเป็นอยู่น้องแล้ว สงสารมาก ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ที่อยู่ก็มีคนให้มาอยู่ฟรี สร้างกระต๊อบเล็กๆอยู่ แม่น้องทำงานคนเดียว จากการสอบถามทราบว่าพ่อเป็นโรคลมชัก จึงทำงานหนักไม่ได้ ไม่มียานพาหนะ อยู่ในป่ายุงเยอะมาก น้องเป็นเด็กเรียนดี ขยัน เชื่อฟังครูอาจารย์ กลับมาเลยได้พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนมีผู้มีจิตศรัทธา ช่วยบริจาคข้าวสารและเสื้อผ้าให้น้อง A Wisukda Nahouse ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนเอ ด้วยนะครับ วันนี้ได้นำไปมอบให้น้องช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว"



ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบครอบครัวดังกล่าว พร้อมด้วย นายฉัตรชัย ทองเจริญ ผอ.โรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรมและนายชัชวาล พิมพา ครูประจำชั้นน้องแพรวา พบว่า สภาพบ้านสร้างเป็นกระต๊อบมุงด้วยสังกะสีเก่า แทบไม่ใช่บ้าน อยู่ในป่าสักของชาวบ้านที่ใจดีให้อยู่ฟรี ห้องน้ำก็ใช้กระเบื้องล้อมเอาไว้ ไม่มีโถส้วม ไฟฟ้าก็ไม่มี และน้ำต้องใช้ถังน้ำไปขอน้ำใช้จากชาวบ้าน โดยอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คนคือ พ่อแม่และลูกอีก 3 คน ประกอบด้วย นางอุดม อายุ 41 ปี นายอนุสรณ์ อายุ 45 ปี ลูกสาว อายุ 12 ขวบ ลูกชาย 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 2 ขวบ





นางอุดม เปิดเผยว่า สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวตอนนี้ถือว่าลำบากทุกอย่าง ตนเองมีลูก 5 คน ลูก 2 คน ให้อาช่วยเลี้ยงดูที่จังหวัดชัยภูมิ ส่วนอีก 3 คน ตนเองและสามีเป็นคนเลี้ยงดู โดยลูกคนที่ 1 เป็นทหารเกณฑ์ คนที่ 2 เรียนที่ชัยภูมิ คนที่ 3,4 เรียนที่อุดรธานี และคนที่ 5 ยังเล็ก มีพ่อคอยดูแล เมื่อเห็นลูกคนอื่นมีความรู้พัฒนาก็อยากให้ลูกตัวเองมีความรู้เหมือนกัน "หากเป็นไปได้อยากให้มีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของลูกๆ อยากให้ลูกมีการศึกษาที่ดี ถ้าเป็นไปได้ก็อยากมีที่เป็นของตัวเอง เพราะหากตนเองและสามีเป็นอะไรไป ไม่รู้ลูกจะอยู่อย่างไร"





เดิมทีแล้วตนเองเป็นคนอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี มาทำงานในอำเภอเมือง มีสามีแล้วก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับสามีที่แห่งนี้ ช่วยสามีเฝ้าสวน หลังพ่อเสียชีวิต พี่สาวก็ขายบ้านขายที่ดินจึงไม่ได้กลับไปที่วังสามหมออีก การเลี้ยงดูลูก ตอนเช้าก็เดินไปส่งเย็นก็เดินไปรับ หลังจากโรงเรียนรู้ว่าต้องเดินไปก็ส่งรถมารับ เมื่อลูกเลิกเรียนก็ให้ลูกรีบทำการบ้าน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและที่นี่ยุงเยอะ สำหรับอาหารการกินก็อยู่กันแบบขัดสน บางวันก็ไม่ได้กินอาหารครบ 3 มื้อ บางวันลูกก็จะกินข้าวกับน้ำตาลและกะปิ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายก็เดินไปอนามัยซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน ตัวเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของคาเฟ่ก็เป็นเจ้าของที่ดินที่ให้อยู่อาศัย ได้เงินเดือน 8,000 บาท ส่วนสามีนั้นไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากป่วยเป็นโรคลมชัก ทำได้เพียงหาหน่อไม้ในสวนที่เฝ้าไปขาย





นายชัชวาลย์ ทองเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากข้อมูลเบื้องต้นจากครูประจำชั้น หลังได้ออกมาเยี่ยมบ้านนักเรียนในปีการศึกษานี้ว่า พบว่าครอบครัวของนักเรียนชั้น ป.2 และ ชั้นอนุบาล 3 มีความลำบาก เบื้องต้นครูได้มีการแจ้งไปยังกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนในกลุ่มและมีการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว



สำหรับสภาพครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 คน มีเด็กอยู่ในวัยเรียน 3 คน เข้ารับบริการการศึกษาทางโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม บ้านปากดง 2 คน อีก 1 คน อายุยังไม่ครบเกรณฑ์ สภาพการเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ไม่มีไฟฟ้า เนื่องจากอาศัยพื้นที่ของเอกชนอยู่ ไม่มีห้องน้ำ การประกอบอาหารก็ยังใช้ฟืนใช้ถ่าน เครื่องอำนวยความสะดวกส่งเสริมการเรียนต่างๆก็ไม่มีรองรับ ส่วนของการช่วยเหลือ ทางโรงเรียนได้นำข้อมูลนี้นำเสนอขอทุนการศึกษาพิเศษแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถประสานมาทางโรงเรียนได้ โดยติดต่อมายังเบอร์ผู้อำนวยการโรงเรียน 080-763-5991





ด้านนายชัชวาลย์ พิมพา ครูประจำชั้นนักเรียน บอกว่า สำหรับน้องแพรวา นักเรียนที่ตนเป็นครูประจำชั้นเป็นคนตั้งใจเรียน นิสัยดี เชื่อฟังครู ส่วนการเรียนนั้นยังถือว่าเรียนไม่เก่ง แต่ยังเป็นคนขยันพัฒนาตัวเอง ซึ่งสังเกตได้จากเวลาสั่งการบ้านจะทำงานเป็นระเบียบ ตอนที่ออกมาเยี่ยมบ้านนักเรียนครั้งแรกเห็นสภาพแล้ว สภาพครอบครัวน่าจะดีกว่านี้ เพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมสำหรับเด็กกำลังพัฒนา เท่าที่สอบถามกับครอบครัว รู้ว่าพื้นที่ที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่นั้นเป็นพื้นที่ของเอกชน ซึ่งเป็นนายจ้างให้มาอยู่ฟรีโดยให้ช่วยเฝ้าสวน



หลังเยี่ยมบ้านนักเรียน จึงได้โทรมาสอบถามผู้ปกครองขออนุญาตนำรูปไปโพสต์ขอความช่วยเหลือกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งก็มีเพื่อนซื้อข้าวสาร มุ้ง นม มามอบให้ ล่าสุดมีอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์เคยสอนของตัวเองมอบเงินสดมาให้อีก 2,000 บาท เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาให้น้องและครอบครัวนี้ ส่วนผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือสามารถบริจาคสิ่งของติดต่อได้ที่เบอร์ผอ.โรงเรียน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ