คุณแม่บ้านออกมาเตือนภัยแม่บ้านด้วยกันระวังถูกหลอกรับพัสดุแล้วเก็บเงินปลายทาง

นางสาวอรสา  อายุ 47 ปี  ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเตือนภัยคุณแม่บ้านด้วยกัน หลังจากตัวเองได้เจอเหตุการณ์ กรณีที่คุณพ่อบ้าน และลูก ชอบสั่งซื้อของทางออนไลน์ โดยจะมีพัสดุส่งมาตามชื่อ ที่อยู่ ระบุเป็นแบบเก็บเงินปลายทาง โดยก่อนหน้านี้ได้รับพัสดุ จึงทำการเปิดออกดูปรากฏว่าเป็นสายชาร์จแบตเตอรี่ ในครั้งนั้นก็รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ติดใจ กระทั่งต่อมาล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ได้มีพนักงานขนส่งเอกชนนำเอากล่องพัสดุ ที่ระบุชื่อที่อยู่เป็นของตนเองมาส่งให้และเรียกเก็บเงินปลายทางจำนวน 149 บาท

ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นสามี หรือไม่ก็ลูกชายเป็นคนสั่งซื้อ จึงมีพัสดุส่งมาให้ กระทั่งถึงช่วงเย็นที่ทั้งสามีกับลูกชายกลับมาจากที่ทำงานและโรงเรียนจึงได้สอบถามว่าใครเป็นคนสั่งสินค้าออนไลน์ สามีกับลูกชายกลับตอบตรงกันว่าไม่ได้สั่ง จึงได้เปิดออกดูของในกล่องที่ส่งมา พบเป็นขวดพลาสติกบรรจุของเหลวสีชมพู ปริมาณ 500 ซีซี ต่อมาจึงได้โทรศัพท์กลับไปสอบถามตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นชื่อที่อยู่ของบริษัทต้นทางที่จัดส่ง ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ก็รู้สึกแปลกใจที่กล่องพัสดุที่ส่งมาที่บ้านตน ได้ข้อมูลที่อยู่ของตนเองได้อย่างไร เสียทั้งเงิน และได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพแถมเป็นอันตรายต่อชีวิต จึงนำเอามาโพสต์เตือนภัยในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังเกิดเรื่องราวถูกหลอกให้จ่ายเงินถึง 2 ครั้ง ทางตน สามี และลูก ได้พูดคุยเพื่อป้องกันไม่ถูกหลอกถึงแม้ว่าจะเป็นเงินแค่100กว่าบาท แต่ถ้าเขาหลอกได้เป็นร้อยคนเป็นพันคน เขาก็คงได้เงินเป็นหมื่นเป็นแสนทุกวันนี้ถ้าสมาชิกในบ้านสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ จะต้องแจ้งราคา แจ้งชื่อว่าใครเป็นคนสั่ง ถ้าไม่มีรายละเอียดก็จะไม่รับพัสดุ

ด้านเด็กขายจิรโรจน์  อายุ 12 ปี ลูกชายของนางสาวอรสา เล่าว่า สำหรับขวดของเหลวไม่มีฉลากระบุ ไม่ทราบว่าเป็นของเหลวชนิดใด ใช้เพื่อทำอะไร จึงนำเอามาเท ราดกับแผ่นเหล็กปรากฏว่าสนิมที่จับติดกับแผ่นเหล็กได้หลุดละลายออกมา ส่วนสายชาร์จแบตเตอรรี่ ที่ถูกส่งมาแล้วแล้วเสียเงิน ตนเองได้นำมาเสียบชาร์จกับโทรศัพท์มือถือ ปรากฏว่าถูกไฟดูด จึงรีบดึงปลั๊กออกและไม่กล้านำเอามาใช้อีกเลย เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายเพราะเคยถูกไฟช็อตแล้วครั้งหนึ่ง