เจ้าของร้านทองที่ลาว ข้ามฝั่งขอความช่วยเหลือ คนไทยสั่งจ่ายเช็คเด้งตุ๋นซื้อทอง

เจ้าของร้านทองที่ลาว ข้ามฝั่งขอความช่วยเหลือ คนไทยสั่งจ่ายเช็คเด้งตุ๋นซื้อทอง


เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียหายนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ โดยระบุข้อความว่า "ใครมีคนรู้จักทำสำนักข่าวไทย ขอความช่วยเหลือติดตามบุคคลในภาพให้หน่อยครับ คาดว่าเป็นนักต้มตุ๋นมาซื้อทองที่ลาว ที่ร้านของที่บ้านแขวงสวรรณเขต แล้วใช้เคลียเช็ค ชำระเงิน มีขึ้นยอดเงิน แต่ภายหลังยอดโดนหักคืนเพราะเช็คไม่มีเงิน ตอนนี้ได้เบาะแสว่า บุคคลดังกล่าวข้ามฝั่งไปนครพนม ต่อรถไปสกลนครแล้ว อยากให้พี่ ๆ นักข่าวช่วยประชาสัมพันธ์เตือน ภัยของนักต้มตุ๋นช่วงนี้มาระบาดที่ลาว ด้วยครับ"


โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ร้านทองเป็นของญาติที่อยู่ฝั่ง สปป.ลาว ผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยกลางคน พูดไทย มาซื้อทองที่ร้านคํามาลัย สะหวันนะเขต (ตรงข้ามจังหวัดมุกดาหาร) หมู่บ้านโพนสวางใต้ หน้าคิวรถสายหลัก 3 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา และขอให้ชําระเงินโอนบัญชีไทยโดยการโอน จํานวน 6 แสนกว่าบาท  แต่หลังจากนั้นยอดเงินถูกยกเลิก จึงได้สอบถามไปยังธนาคาร บอกเป็นยอดเงินของเช็ค (เช็ครอเคลียเข้าบัญชี) แต่ที่โชว์ในบัญชีมียอดคงเหลือปกติ ขึ้นอยู่กับ CLEARING CHECK  ซึ่งธนาคารคิดว่าเป็นเช็คที่สั่งโดยไม่มีเงินในบัญชี สามารถยกเลิกในภายหลัง ซึ่งตอนนี้ทางร้านไม่สามารถติดต่อชายคนดังกล่าวได้เลย อยากขอความช่วยเหลือด้วย


ต่อมาเวลา 12.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ท้าวสมประดิษฐ์ สุริยา อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย พร้อมครอบครัว เจ้าของร้านทองที่อยู่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ข้ามฝั่งมาแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร


โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. มีชายวัยกลางคน พูดไทย มาซื้อทองที่ร้านคํามาลัย อยู่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งชายดังกล่าวทราบชื่อว่า นายรชต วิไลเจริญพงศ์ หรือนายกรณ์ แตงจุ้ย เป็นชาวไทย เข้ามาเลือกซื้อสร้อยคอทองคำ หนักรวมจำนวน 20 บาท ซึ่งหลังตกลงราคามีมูลค่าเกือบ 7 แสนบาท โดยชายก่อเหตุได้ใช้เล่ห์กลโกงทางออนไลน์ โดยบอกกับเจ้าของร้านทองว่าไม่มีเงินสดขอโอนเงินทางแอปธนาคารได้ไหม เจ้าของร้านทองตกลง ทางคนร้ายจึงประสานมายังเครือข่ายที่อยู่ฝั่งไทย ให้โอนเงินเข้าบัญชี พอเจ้าของร้านเช็คแอปธนาคารพบว่ามียอดเงินเข้าจริง จากนั้นคนร้ายก็ริบเดินออกจากร้านทองกลับฝั่งไทย


ต่อมาหลายชั่วโมง เจ้าของร้านทองจะโอนจำนวนเงินที่คนร้ายโอนให้เข้าบัญชี แต่กลับโอนไม่ได้เพราะไม่มีเงินในบัญชี จึงติดต่อคนร้ายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ รู้สึกเอะใจ จากนั้นจึงติดต่อทางธนาคารจึงทราบว่าตัวเลขจำนวนเงินที่เห็นในแอปยังใช้ไม่ได้ ต้องรอเคลียริ่งเช็คยืนยันก่อน หรือสอบถามทางธนาคารก่อน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพนี้อาศัยช่องว่างดังกล่าวมาหลอกลวง


ทางด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ สุวะศรี หลังสอบปากคำครอบครัวร้านทองผู้เสียหายเสร็จ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบผู้ก่อเหตุและพวกเป็นใครแล้ว เตรียมออกหมายเรียกให้มาสอบสวน ถ้าไม่มาตามหมายเรียกจะออกหมายจับต่อไป


ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังด่าน ตม.ต่าง ๆ พบว่า ชายคนดังกล่าวได้ข้ามไปยังฝั่งลาว ในวันที่ 15 มิ.ย. และได้เดินทางกลับเข้าไทยในวันเดียวกันแล้ว โดยมีการแจ้งเตือนในกลุ่มโซเชียล เปิดเผยชื่อชายคนดังกล่าว และระบุว่าเป็นบุคคลอันตราย ที่เที่ยวตระเวนก่อเหตุต้มตุ๋นร้านทองมาแล้วหลายแห่ง