“ทนายเดชา” ห่วงแม่แตงโม หลงผิดเชื่อทีม ส.ส.เต้ หวั่นเกิดผลเสียสู้คดี

กว่า 3 เดือนหลังการเสียชีวิตของแตงโมนิดา ความเคลื่อนไหวไม่หยุด ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ แถลงโต้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ทีมที่ปรึกษาใหม่คุณแม่ หากถูกเเจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท และผิดมรรยาททนายความ

การเสียชีวิตของแตงโมนิดา พัชรวีระพงษ์ ผ่านมากว่า 3 เดือน แต่หลายคนก็ยังคงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะไม่เชื่อว่า จะเป็นคดีประมาทฯ ขณะที่เป็น 3 เดือนที่ผ่านมา ก็มีคดี เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะคนที่เห็นต่าง ที่ออกมากล่าวหาซึ่งกันแล้วกัน โดยวันนี้ก็มีความเคลื่อนไหว ของ 2 คนสำคัญ คือ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตที่ทนายความคุณแม่แตงโม กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งตอนนี้เป็นทีมที่ปรึกษาคดีให้กับคุณแม่ของแตงโม

โดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันทางทีมงานทุกคน จะสู้คดีเพื่อทวงความยุติธรรมเพื่อแตงโมจน สุดทางของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างของภาคประชาสังคมที่ช่วยกันทุกฝ่าย และจะส่งผลถึง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จนสามารถแก้กฏหมาย ใน พรบ.สืบสวนคดีอาญา และ พรบ.สำนักงานทนายรัฐ ก็จะทำให้ คำว่า "คนจนติดคุก คนรวยมีเส้นสายรอดคุก" ไม่มีอีกต่อไป แม้อาจไปขัดกลุ่มผลประโยชน์ และถูกเล่นงานจนถูกถอดถอน จากการเป็น ส.ส. และตัดสิทธิ์ทางการเมืองหรือถูกจำคุกก็ตาม

ขณะที่ ทนายเดชา ที่ก่อนหน้านี้ยื่นเรื่องต่อ ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรมของ นายมงคลกิตติ์ ที่มีการข่มขู่เอาชีวิตไปแล้ว ล่าสุดเเถลงถึงกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ จะเดินทางไปเเจ้งความที่ สน.บางโพ ให้ดำเนินคดี ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา , ข่มขืนใจผู้อื่นฯ ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และผิดมรรยาททนายความ นั้น เป็นการรังเเกประชาชน ไม่เหมาะสมที่เป็น ส.ส. หากนายมงคลกิตติ์ ไปเเจ้งความ ก็จะไปร้องจริยธรรมเพิ่มฐานรังแกประชาชน ไปฟ้องกลับต่อศาลอาญา ในข้อหาแจ้งความเท็จ ทันที

ในส่วนของคดีของแตงโม ทนายเดชา ก็ยืนยันว่าคืบหน้าไปมาก ตอนนี้เตรียมเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งอัยการจะสั่งฟ้องในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ส่วนที่นายมงคลกิตติ์กับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กำลังทำอยู่ เชื่อว่าไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน หากมีหลักฐานจริง ทำไมไม่นำไปให้ตำรวจหรืออัยการ พร้อมทั้งแนะนำว่า หากคุณเเม่แตงโมฟ้องเองต่อศาลโดยตรงในคดีนี้ จะมีผลเสียมากกว่า เพราะเป็นการฟ้องข้อหาที่ขัดกับข้อหาของอัยการที่เป็นข้อหาประมาท ซึ่งจะส่งผลให้แม่ไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในคดีประมาทได้ จะแต่งตั้งทนายความมาซักค้านไม่ได้ และหากศาลตัดสินแล้ว ก็ไม่สามารถจะยื่นขออุทธรณ์ได้ด้วย