โจรมือไว! ย่องขโมยเงินบริจาควัดดังย่านมีนบุรี 45 นาที งัด 18 ตู้

กล้องวงจรปิดที่วิหารพระประจำวัน จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อสีส้ม กางเกงขาสั้นสีครีม สวมหมวก และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เข้ามางัดตู้บริจาคของวัดบำเพ็ญเหนือ ช่วงประมาณ 01.45 น. ของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเมื่อเข้ามาก็ไปตรวจสอบตู้บริจาคแต่ละตู้ว่ามีเงินไหม ด้วยการยกตู้เพื่อดูน้ำหนัก ซึ่งตู้แรกเบาเลยวางไว้ แต่ตู้ที่ 2 หนักจึงยกไปที่หลังตู้กระจก ก่อนลงมืองัดตู้ โดยคนร้ายลงมืออย่างใจเย็น ค่อยๆ งัดทีละตู้แล้วเอาเงินใส่ถุงที่เตรียมมา โดยใช้เวลาก่อเหตุนานถึง 45 นาที งัดไปทั้งหมด 18 ตู้


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดบำเพ็ญเหนือ ย่านมีนบุรี พบกับพระครูสังฆภารวิมล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบำเพ็ญเหนือ และพระลูกวัดกำลังช่วยกันซ่อมแซมตู้บริจาคที่ถูกงัดพังเสียหาย ซึ่งหลวงพ่อบอกว่า ระดมพระลูกวัดมาช่วยกันซ่อมตู้บริจาค เพราะถ้าซื้อใหม่ก็ราคาตู้ละเกือบ 2 พันบาท และคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาคของวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน เพราะมีรูปร่างคล้ายกัน


แม้หลังจากที่รู้ข่าวงัดตู้บริจาค พระครูสังฆภารวิมล ก็จะอยู่เฝ้าจนดึกมาตลอด กระทั่งเมื่อคืนที่อ่อนล้า จึงอยู่ถึงตี 1 ครึ่ง และไปจำวัด เมื่อคนร้ายเห็นว่าปลอดคน จึงเข้ามาก่อเหตุ โดยทุบกระจกหน้าต่างวิหารจนแตกแล้วเอามือล้วงเข้ามาปลดล็อกกลอนหน้าต่าง พอปีนเข้ามาได้ ก็ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 45 นาที งัดตู้เอาเงินใส่ถุงพลาสติกแล้วหิ้วออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์หนีออกไปทางฝั่งถนนเสรีไทย คาดว่าน่าจะได้เงินไปราวๆ 4-5 พันบาท


ทั้งที่วัดบำเพ็ญเหนืออยู่ในเขตการดูแล Smart Safety Zone ของตำรวจ สน.มีนบุรี จะมีตำรวจเข้ามาตรวจตราอยู่เรื่อย ๆ แต่โจรก็ยังกล้าเข้ามาก่อเหตุ


เมื่อทีมข่าว ข้ามไปสอบถาม พระศิลป์ชุตินธโร เลขานุการเจ้าคณะแขวงลุมพินี และพระผู้ดูแลวิหารพระประจำวันของฝั่งวัดบางเพ็งใต้ บอกว่า วัดบางเพ็งใต้ถูกคนร้ายเข้ามางัดตู้บริจาคแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 2 เดือนก่อน และล่าสุดช่วง 3 ทุ่มของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา น่าจะได้เงินไปราว 7-8 พัน เพราะเป็นตู้ใหญ่ที่รับบริจาคสำหรับงานเททองหล่อพระที่จะมีขึ้นวันอาทิตย์นี้ (5 มิ.ย.)


ล่าสุด ตำรวจ สน.มีนบุรี ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุทั้ง 2 วัด ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ ซึ่งมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งจะพ้นโทษคดีลักทรัพย์มาได้ 6 เดือน พักอาศัยอยู่ย่านรามอินทรา และจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุเพียงคนเดียว