ผู้สมัคร "ผู้ว่าฯ กทม." ไม่หวั่นผลโพล 'ชัชชาติ' นำลิ่ว เชื่อการเมืองมีเรื่องเซอร์ไพรส์ได้ตลอด

ความเคลื่อนไหวของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หลายคน ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องโพล จากสำนักต่างๆ ที่ให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เต็งหนึ่ง และในภาพรวม ทั้งตัวนายชัชชาติเอง และทุกคน กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับโพลมากนัก เพราะเชื่อว่า นโยบายที่ดี และการลงพื้นที่พบปะประชาชน อาจทำให้ผลโพลเปลี่ยนไปได้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงตลาดวงเวียนใหญ่ ตลาดเสสะเวช และตลาดจอมทอง เขตจอมทอง ซึ่งมีการรับฟังปัญหาเศรษฐกิจและแรงงานในเมือง รวมถึงพูดคุยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่หมู่บ้านภูมิใจการ์เด้น ย่านพระราม 2 โดยมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสะท้อนปัญหาค่าครองชีพ ทำให้ลูกค้าน้อยลง นายชัชชาติ ได้อธิบายกับประชาชนว่า กทม.ต้องเน้นในแง่ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ยกตัวอย่างเช่น ส่วยต้องหมด ไม่ใช่ว่าพี่น้องประชาชนลำบากอยู่แล้ว ต้องไปเก็บค่าใช้จ่ายเขาเพิ่ม ใต้โต๊ะทั้งหลาย สิ่งที่เราต้องให้บริการประชาชนเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข การศึกษา ดูแลเด็ก ผู้สูงอายุให้ดี

เมื่อถามว่าผลโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทั้งดุสิตโพล และนิด้าโพล ตรงกันว่านายชัชชาติยังมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 นายชัชชาติ มองว่าเป็นกำลังใจให้ทีมงาน แต่ยังไม่มั่นใจ เพราะเหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์ ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และบางโพลตนก็ไม่ได้มีคะแนนนำ ส่วนตัวย้ำกับทีมงานว่าอย่าไปสนใจเรื่องโพลมาก ทำให้เต็มที่ เพราะเราแข่งกับตนเอง

ด้าน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 กล่าวถึงผลสำรวจคะแนนนิยมของนิด้าโพลครั้งที่2 ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นแต่ยังเป็นรองนายชัชชาติ และพลตำรวจเอกอัศวิน ว่า ผลสำรวจของแต่ละโพลก็ไม่เหมือนกันและกลุ่มตัวอย่างก็น้อยเกินไป แต่อย่างไรก็ตามจะนำผลโพลมาเป็นพลังในการต่อสู้ว่าจะต้องขยันเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีการสำรวจคะแนนความนิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้มีความมั่นใจว่ายิ่งลงพื้นที่ยิ่งเดินคะแนนยิ่งดีขึ้น มั่นใจคะแนนจะตีตื้นขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการเมืองเป็นเรื่องคาดเดายากทุกอย่างมีเรื่องเซอร์ไพรส์ได้เสมอ เนื่องจากมีพลังเงียบเยอะมาก ที่ยังไม่ตัดสินใจ

ส่วน นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 7 ลงพื้นที่หาเสียงในชุมชนคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ เพื่อรับฟังปัญหาปากท้องของชาวบ้านในหมู่บ้านศิลปิน นอกจากนี้ยังมีการล่องเรือตรวจดูน้ำเสีย ภายในคลองภาษี และปัญหาตลิ่งทรุด และการจัดการขยะ จุดที่น่าสนใจในวันนี้ นางสาวรสนา ได้พบกับชายสูงอายุ อายุ 67 ปี สะท้อนปัญหาบ้านทรุดตัวที่เกิดจากการตอกเสาเข็มของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ซึ่งแรงสั่นสะเทือนทำให้บ้านหลังดังกล่าวเอียงตัวลงประมาณ 45 องศา แต่ยังไม่มีการเยียวยา นอกจากนี้สำนักงานเขตพื้นที่ไม่ได้เข้ามาเหลียวแล ให้เพียงเงินเยียวยา 20,000 บาทเท่านั้น

เมื่อถามถึงผลสำรวจโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลายสำนัก มีนายชัชชาติคะแนนนำ โดยนางสาวรสนาไม่ติดอันดับ นางสาวรสนามองว่า ส่วนตัวไม่เชื่อถือโพล เนื่องจากมองว่าเป็นความเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่เห็นว่าใช้ปัจจัยใดในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ไม่ได้สะท้อนเสียงของคนกรุงเทพทั้งหมด

ขณะที่ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 11 แถลงนโยบายพื้นที่สีเขียวนำพื้นที่รกร้างว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของ กทม. เอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือที่หน่วยงานราชการ รวมทั้งพื้นที่ใต้ทางด่วนที่มีจำนวนมาก ล้วนนำมาเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน กทม.ได้ ซึ่งในส่วนของเอกชนจะมีการเพิ่มแรงจูงใจในการเข้าร่วมด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

นาวาอากาศตรี ศิธา ยังกล่าวว่า ถึงผลสำรวจคะแนนนิยมของนิด้าโพลครั้งที่2 ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นแต่ยังห่างจากตัวเต็งอยู่มาก ว่า ตนเองไม่ได้เอาผลแพ้ชนะเป็นตัวตั้ง แต่เน้นที่ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักผ่านนโยบายต่างๆที่นำเสนอไป แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ ก็สามารถนำนโยบายไปใช้ได้ แต่เชื่อว่าคะแนนจากนี้จะขึ้นเรื่อยๆเพราะที่ผ่านมาเปิดตัวช้า และเชื่อว่าการแข่งขันทางการเมืองมีหลายปัจจัยอาจทำให้คะแนนสวิงจากอีกคนมาอีกคนได้