โฆษกรบ. เผย นายกฯย้ำยังไม่ประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น

แผนเปิดประเทศหลัง ศบค.ประกาศมาตรการผ่อนคลาย ที่จะมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้ โดยเฉพาะให้ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT PCR กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว วันนี้ทางโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น จนกว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนด



วันนี้ (30 เม.ย. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่ได้มีการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แม้รัฐบาลและศบค. ได้มีการผ่อนคลายปรับมาตรการต่าง ๆ แล้ว เพราะยังไม่เข้าหลักเกณฑ์และเป้าหมายที่กำหนด เช่น ผู้ป่วยรายใหม่ ไม่เกิน 10,000 ราย/วัน และอัตราการเสียชีวิต น้อยกว่าร้อยละ 0.1



โฆษกรัฐบาล ยังกล่าวว่า ล่าสุดสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ออกประกาศนักบิน (NOTAM) แจ้งสายการบินทั่วโลกถึงมาตรการที่ปรับปรุงในการเดินทางทางอากาศเข้ามายังประเทศไทยแล้ว เพื่อสร้างความเข้าใจและให้สายการบินปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป



พร้อมเน้นย้ำและขอความร่วมมือสายการบินให้ช่วยตรวจสอบกลั่นกรองเอกสารและเฝ้าระวัง อย่างเคร่งครัดตามมาตรการใหม่ รวมทั้งให้สายการบินแจ้งข้อมูลผู้โดยสารให้ครบถ้วนถูกต้องเพื่อสามารถเตรียมพร้อมและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศตามมาตรการใหม่ได้อย่างเต็มที่และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ



สำหรับ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันนี้ 12,888 คน จากในประเทศ 12,784 คน มาจากต่างประเทศ 104 คน ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 17,105 คน ผู้ป่วยกำลังรักษา 151,567 คน และเสียชีวิต 126 คน ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,773 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 23 คน อัตราครองเตียง ร้อยละ 23.7



ขณะเดียวกันทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเปิดประเทศเต็มรูปแบบที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เป็นการผ่อนคลายเงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ระบาดภายในประเทศ



โดยกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบไม่ต้องตรวจ RT-PCR และการปรับลดวงเงินประกันภัยสำหรับชาวต่างชาติทุกกลุ่มเหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐ จากเดิม 20,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่การเปิดจุดผ่านแดนถาวร 31 ด่าน ใน 17 จังหวัด เพื่อเปิดรับการเดินทางท่องเที่ยวทางบก ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เช่นกัน จะเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว และช่วยให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ กลับมามีบรรยากาศที่สดใสขึ้น



ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยสำหรับทั้งปี 2565 อาจอยู่ที่ราว 4 ล้านคน หรือคิดเป็นรายได้การท่องเที่ยวเป็นมูลค่าประมาณ 2.4 แสนล้านบาท