สังคม

ทนายตั้ม ประกาศกร้าว ใครในพรรคใหญ่ช่วยคดีปริญญ์ บรรลัยแน่

โดย nutda_t

18 เม.ย. 2565

183 views

นายสิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความและเป็นพยาน ในคดีอนาจารและข่มขืน ของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่สน.ลุมพินี โดยในช่วงแรกนายสิทธาได้พาผู้เสียหายเข้ามาก่อน 1 คน โดยระบุว่าผู้เสียหายรายดังกล่าวคือผู้ที่บันทึกคลิปเสียงการพูดคุยสนทนากับผู้ต้องหา ที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยในระหว่างพาตัวขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าผู้เสียหายมีอาการร้องไห้สะอึกสะอื้น ก่อนที่จะเดินตามทนายความขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน



นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6-7 คน แต่บางคนไม่สะดวกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่พามาแจ้งความล่าสุดเป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ที่ไม่เคยปฏิเสธว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเหยื่อคนนี้ เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 แต่คาดว่ายังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้ ทั้งนี้ ในตอนแรกเหยื่อไม่ยอม จะไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2-3 ครั้ง ก็ได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่าพ่อผู้ก่อเหตุใหญ่มาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแล้ว



นายษิทรา กล่าวยืนยันว่า ไม่กลัวการฟ้องร้องกลับ เพราะเหยื่อทุกคนมั่นใจให้ตนมาดำเนินคดี ถ้าตนกลัวคนอื่นก็เสียขวัญ แต่ยอมรับว่าสับสนเพราะเหยื่อเยอะ แต่พฤติการณ์ส่วนใหญ่คือพาเหยื่อไปคุยที่ร้านอาหารและพาไปขืนใจที่ห้อง แต่มีเหยื่อที่ถูกวางยาจะมาแจ้งความด้วย ส่วนอีกรายถูกกระทำที่ประเทศอังกฤษ จะเข้ามาเป็นพยาน



ส่วนเรื่องตำรวจยศพันตำรวจเอก จะให้เงินปิดปากเหยื่อนั้น ยังไม่มีข้อมูลมา แต่จากข้อมูลของตนเองพบว่าเป็นนายตำรวจยศพลตำรวจตรี ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบแล้ว สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นขบวนการของพรรคก้าวไกลที่จะดิสเครดิตนั้น ยืนยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล ตนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าจะกลั่นแกล้งทางการเมือง ตนไปทำคนที่มีโอกาสได้มากกว่า หากผู้ก่อเหตุพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ ตนจะทำเรื่องถอนการประกันตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ วานนี้เขาควรจะไปที่ศาลเพื่อทำเรื่องค้านการประกันตัวผู้ต้องหาแต่เขาไม่ไป ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ ใครเงียบไป



ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่ามีคนภายในพรรคที่ผู้ต้องหาเคยสังกัดอยู่เข้ามาให้การช่วยเหลือ แต่อยากเตือนไปถึงผู้ที่เตรียมให้การช่วยเหลือหรือกำลังให้การช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้ หากพบว่าเป็นคนภายในพรรคการเมืองดังกล่าว ใครกล้าช่วย ใครช่วยก็บรรลัย ถ้าข่าวมาถึงตนเองว่า มีคนในพรรคนี้ไปพยายามติดต่อพูดคุยกับใครให้ช่วยเหลือทางคดี พัง ไม่มีใครช่วยอะไรได้ เพราะฉะนั้นหยุดพฤติกรรมเหล่านี้



ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหามีประวัติอาการทางจิตและประสาทจนอาจจะมีผลต่อรูปคดีนั้น เชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิต แต่ไม่น่านำมาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้คดี เพราะเขายังไปเป็นวิทยากรเวทีต่างๆ ได้ มีสติปกติดี เขาจะซื้อบริการก็ยังได้ แต่ดูว่ามีรสนิยมชอบคนที่ขัดขืน



นอกจากนี้ ยังขอชื่นชมตำรวจ สน.ลุมพินี เรื่องการทำคดีดังกล่าวพบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก และมีการประสานกับตนตลอด ทั้งการเตรียมพนักงานสอบสวนผู้หญิงเพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย และจะให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดรวมเป็นสำนวนคดีเดียว จึงขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ