เทรนเนอร์ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ลูกค้าวางยาในน้ำส้ม ยังไม่สลด ส่งรูปเปลือยให้ดูซ้ำ

เทรนเนอร์ถูกวางยาสลบในน้ำส้ม ยืนยันดำเนินคดีกับลูกเทรนถึงที่สุด พร้อมแฉพฤติกรรม เคยส่งภาพเปลือยของคนอื่น มาให้ดู หลังเกิดเหตุยังไม่สลดยังส่งรูปเปลือยของลูกเทรนมาให้ดูอีก

จากเหตุการณ์ ชื่อนายภักดิ์พิสิฐ สายกระสุน ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ราษฎร์บูรณะ หลังถูกนักเรียนซึ่งเป็นลูกเทรน อายุกว่า 50 ปี จ้างให้ไปสอนที่บ้านในย่านพุทธบูชา และ ลูกเทรน ได้วางน้ำส้มไว้ให้ดื่ม

จนสุดท้ายนายภักดิ์พิสิฐ ได้นำขวดน้ำส้มมาดื่มที่บ้าน ปรากฎว่าหลับไม่ได้สติไปถึง 2 วัน ทั้งนี้เชื่อว่า มาจากน้ำส้ม ที่ลูกเทรน เอามาให้ดื่มอาจมีการใส่ยาสลบไว้ จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนภัย และได้ไปพบตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด นายภักดิ์พิสิฐ ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 บอกว่า เมื่อคืนนี้หลังจากให้ปากคำกับตำรวจแล้ว ได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่า ในน้ำส้มที่ดื่ม มีการวางยานอนหลับ หรือ ยาประเภทอื่นอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์

โดยตอนแรก ตนตั้งใจจะโพสต์แค่เตือนภัยเท่านั้น เพราะกังวลเรื่องข้อกฎหมายเนื่องจากตนไม่ได้ดื่มน้ำส้มที่บ้านของลูกเทรน แต่เอากลับมาดื่มที่บ้าน จึงกลัวว่าหลักฐานที่จะดำเนินคดีอาจไม่เพียงพอ

แต่ล่าสุดทางตำรวจได้ติดต่อว่า จะดูแลคดีของตนอย่างเต็มที่ จึงทำให้ตนเปลี่ยนใจขอดำเนินคดีกับลูกเทรนรายนี้ เพื่อไม่ให้ลูกเทรน ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก นอกจากนี้ ลูกเทรนคนดังกล่าว เคยทำพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ส่อไปในเรืองเพศมาแล้ว

โดยก่อนหน้านี้หลังจากเทรนกันครั้งแรก ลูกเทรน เคยชักชวนตนให้ดูดวง และ เสริมดวง ซึ่งตนก็เชื่อ แต่สุดท้ายลูกเทรนก็ส่งรูปโป๊เปลือยของผู้ชายคนอื่นมาให้ดู ซึ่งตนก็ตกใจ แต่ลูกเทรนอ้างว่า การเปลือยกาย เป็นแก้ดวง และบอกให้ตนไม่ต้องอาย ซึ่งครั้งนั้นตนก็รู้สึกว่าลูกเทรนเริ่มผิดปกติ จึงทำให้ตนระวังตัวมากขึ้น จนมีการนัดเทรนกันครั้งที่สอง ที่โรงแรมก็ไม่มีปัญหาอะไร จึงตัดสินใจรับนัดเทรนกันครั้งที่สาม ที่บ้านของลูกเทรนและก็เกิดเรื่องขึ้น

ทั้งนี้หลังจากที่ตนได้โพสต์เตือนภัยไปในเฟซบุ๊ก ลูกเทรนรายนี้กลับไม่สลด แต่ยังส่งรูปเปลือยของตัวลูกเทรนมาให้ตนดู ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นลูกเทรนรายนี้อย่างแน่นอน เพราะจำรอยสักได้  ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และหากลูกเทรนขอโทษ ตนก็คงรับฟัง แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

ขณะที่มีรายงานจากตำรวจว่า ขณะนี้รู้เบาะแส ลูกเทรนคนดังกล่าวแล้วอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำเชื่อว่าจะได้ตัวเร็ววันนี้ ส่วนน้ำส้มของกลางที่เชื่อว่ามีการใส่ยาสลบลงไป ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจว่ามีสารตกค้างหรือตัวยาชนิดไหนเจือปนอยู่หรือไม่ และจะเรียกตัวนายภักดิ์พิสิฐ มาให้ปากคำเพิ่มอีกครั้งในวันนี้

ขณะที่อาจารย์อ๊อด รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์วีรชัย พุทธวงศ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้นำตัวอย่างน้ำส้มปริมาณ 20 มิลลิลิตร ไปตรวจวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ภายหลังตรวจสอบรอบแรก ด้วยเทคนิคและเครื่องมือเดียวกับที่เคยตรวจกับเคสนักวิ่งชายจังหวัดนนทบุรีถูกมอมยา พบว่า แทบไม่เจออะไรเลย จึงได้เพิ่มความเข้มข้นขึ้น และพบว่า เจอสารแปลกปลอมหนึ่งตัวจริง ในปริมาณที่น้อยมาก ซึ่งตรวจแล้วเสร็จเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นสารอะไร จึงส่งตัวอย่างไปตรวจซ้ำ ด้วยเครื่องมือละเอียดมากที่ วิทยาเขตนครปฐม โดยให้นักศึกษาปริญาเอกช่วยตรวจวิเคราะห์ คาดกว่าจะทราบผลประมาณ 4-5 โมงเย็น วันนี้

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า อาจารย์อ๊อด ได้พูดคุยกับญาติของเทรนเนอร์ถึงรายละเอียด ก่อนที่นายภักดิ์พิฐทานน้ำส้ม ได้ทานอะไรก่อนดื่มน้ำส้มแล้วสลบไป 2 วัน  ซึ่งญาติก็มั่นใจว่า เทรนเนอร์ได้สลบจากทานน้ำส้มไป 15 นาที พร้อมบอกผลตรวจเบื้องต้น พบสารประเภทกล่อมระบบปราสาท

ส่วนสาเหตุที่ตรวจเจอสารแปลกปลอมในปริมาณน้อย อาจารย์อ๊อด อธิบายว่า เพราะตัวอย่างที่ให้มาตรวจน้อย จึงต้องใช้เวลาตรวจละเอียดขึ้น และอีกประเด็นมีความเป็นไปได้ว่า หากใส่สารแปลกปลอมบริเวณขอบปากขวด ไม่ได้เติมลงไปในน้ำส้ม ก็สามารถทำให้สลบได้