สังคม

แม่แตงโม ลุยฟ้องคนด่า ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด ติดคุกสถานเดียว ไม่รับคำขอโทษ

โดย nutda_t

7 เม.ย. 2565

91 views

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ คุณแม่แตงโม ได้โทรมาแจ้งว่า ให้ดำเนินคดีกับคนที่ไปด่าคุณแม่โดยไม่สุจริต ทำให้เสียหาย โดยจะดำเนินคดีเฉพาะคนที่ด่าด้วยความเท็จ ใส่ร้ายรุนแรง เช่น แม่ฆ่าลูก หน้าเงิน เห็นแก่เงิน ไม่สนใจลูก เป็นต้น แต่ใครที่วิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง คุณแม่จะไม่เอาเรื่อง โดยวันนี้คุณแม่จะเอาหลักฐานต่างๆ มามอบให้ ว่าจะดำเนินคดีกับใครบ้าง ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีกี่คน ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของคุณแม่ แต่ส่งมาเท่าไหร่ก็จะดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งคุณแม่บอกว่าจะเริ่มต้นจากคนที่มาคอมเมนต์ในแอปพลิเคชัน Wesing ก่อน



และคุณแม่ยืนยันว่าจะไม่รับคำขอโทษ ไม่รับเงินสด หรือกระเช้าดอกไม้ แต่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ให้ติดคุกสถานเดียว เพื่อให้เป็นตัวอย่างของสังคมว่าไม่มีสิทธิจะไปใส่ร้ายผู้อื่น ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยสาเหตุที่คุณแม่ตัดสินใจเดินหน้าฟ้อง เพราะตอนนี้รู้สึกว่ามันเริ่มละเมิดสิทธิกันมากเกินไปแล้ว ขนาดแค่ร้องเพลงในแอปพลิเคชั่นก็ยังโดนด่าไม่จบสิ้น แต่ในส่วนของสภาพจิตใจ ระยะหลังคุณแม่มีความแข็งแกร่งแล้ว จะทำอะไรก็ตัดสินใจเองไม่มีใครชักจูงได้



ส่วนกรณีที่ในเวลา 14.00 น. วันนี้ (7 เม.ย.) ตนและคุณแม่ จะไปเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 นั้น ไม่ได้เป็นการที่คุณแม่จะเข้าไปแจ้งข้อหากับคนบนเรือเพิ่มเอง แต่พนักงานสอบสวนได้เชิญคุณแม่ไปให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งทุกครั้งที่คุณแม่เข้าไปให้ปากคำ ก็เพราะว่าตำรวจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ดังนั้น หลังจากการเข้าพบของคุณแม่ในวันนี้แล้ว ก็อาจจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับกับคนบนเรือเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มข้อกล่าวหา ซึ่งที่ทราบมาคือข้อหาทำลายพยานหลักฐาน แต่จะเป็นใครที่โดนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน เพราะทุกคนมีความเป็นไปได้ที่จะโดนหมดหากรู้เห็นเป็นใจ เช่น นั่งอยู่ในเรือแล้วเห็นคนกำลังทิ้งแก้วไวน์ลงน้ำแต่ไม่ห้าม ก็แปลว่าเป็นตัวการร่วมด้วย



โดยตอนนี้การแจ้งข้อกล่าวหาถือว่ายังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ อาจจะมีเพิ่มได้อีก แต่จำนวนผู้ต้องหาน่าจะครบแล้วคือ 6 คน ยกเว้นเพียงว่ามีพยานหลักฐานใหม่โผล่ขึ้นมา แต่เท่าที่ทราบจากตำรวจตอนนี้พยานหลักฐานที่มีถือว่าครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว



และตำรวจยังได้รับคำแนะนำจากอัยการด้วย ซึ่งมีการประสานงานกันด้วยดี อะไรที่ตำรวจทำไปแล้วเกิดความบกพร่องไม่สมบูรณ์ อัยการก็จะให้คำแนะนำเพราะเป็นผู้ที่จะต้องร่างฟ้อง เปรียบเป็นการถ่วงดุลอำนาจเพื่อความเป็นธรรม ซึ่งการตีกลับสำนวนกระติกไม่ใช่เรื่องแปลก แม้ตำรวจจะเสียหน้าไปบ้าง แต่เพื่อความสมบูรณ์ของคดี ตำรวจก็ยินดี เพราะบางครั้งความเห็นของตำรวจกับความเห็นของอัยการก็ไม่ตรงกัน แต่อัยการเป็นผู้สั่งฟ้อง จึงต้องยึดความเห็นของอัยการเป็นหลัก



ยืนยันว่าคดีน่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ตามกำหนดเดิมคือหลังสงกรานต์ และตอนนี้คุณแม่เองก็พอใจกับรูปคดี ตำรวจทำงานอย่างดี แม้อาจไม่ถูกใจสังคมบ้าง เพราะสังคมคาดหวังสูง



กรณีของกุนซือ ยืนยันว่า ได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจริง แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยกุนซือคนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหาร เป็นคนมีบารมี มีคอนเนคชั่น รู้จักกับตำรวจ นักการเมือง คนใหญ่คนโต และมีความรู้ทางกฏหมายเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้เป็นทนายความ โดยการที่สามารถเปิดร้านอาหาร ผับ บาร์ ในย่านธุรกิจได้ ก็แปลว่าต้องมีคอนเนคชั่นกับตำรวจเป็นอย่างดี เพราะต้องมีการประสานงานกัน



ซึ่งกุนซือจะต้องมีความสนิทสนมกับคนบนเรือมาก ถึงกล้าขอคำปรึกษาในเรื่องที่ใหญ่โตขนาดนี้ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าของหนึ่งในร้านที่คนบนเรือไปพบหลังเกิดเหตุหรือไม่ เพราะเจ้าตัวก็ไม่อยากเปิดชื่อ กลัวทัวร์จะลง แต่หากเปิดชื่อมาเชื่อว่าจะต้องมีคนรู้จักเพราะเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวงของตัวเอง เป็นคนกว้างขวางแต่ไม่ใช่คนมีสี



ทนายเดชา กล่าวถึง กรณีที่กระติกให้สัมภาษณ์ว่า ให้การเท็จเพียงครั้งแรก และหลังจากนั้นนึกอะไรได้ก็มาให้การเพิ่มเติมกับตำรวจว่า เรื่องนี้คุณแม่แตงโมไม่เชื่อ คุณแม่เชื่อว่ากระติกน่าจะมีความผิดเพิ่มเติมก็เลยต้องเข้าไปพบตำรวจ การที่บอกว่าลืมเหตุการณ์แล้วค่อยๆ นึกออกนั้น กระติกไม่ได้ความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์ และเหตุการณ์ก็ไม่ได้ซับซ้อน อีกทั้งกระติกยังเป็นคนฉลาด ตอนมากราบขอโทษแม่ก็ยังเถียงและโกหกว่าว่ายน้ำไม่เป็น ดังนั้น จะเชื่อคำพูดได้หรือไม่ ก็ให้สังคมตัดสินเอง



ส่วนกรณีของบังแจ็ค ออกมาพูดเรื่องผ้าขาว คุณแม่จะดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่า ได้คุยกับคุณแม่แล้ว คุณแม่บอกเพียงว่า สิ่งสกปรก สิ่งปฏิกูล หรือขยะ เราไม่ควรเอานิ้วไปเขี่ย เพราะจะทำให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วย ดังนั้น คุณแม่จะไม่ยุ่ง ไม่ให้ราคาให้เสียเวลา ปล่อยให้เขาพูดไป แต่ขอฝากถึงคนหิวแสงที่หากินกับศพว่าการหากินกับศพเป็นเรื่องไม่ดีควรจะหยุดได้แล้ว



ส่วน ส.ส.เต้ ที่โดนทนายตั้มซัด ก็เพิ่งโทรมาหาตนเมื่อเช้า ตนก็ได้บอกไปว่า เรื่องนี้ตนจะไม่ยุ่ง ใครจะทะเลาะกันก็ตามสบาย แต่ก็ได้บอก ส.ส.เต้ ไปว่า จะทำอะไรก็แล้วแต่ แต่การเป็น ส.ส. ต้องมีวุฒิภาวะก่อนที่นำเสนอเรื่องอะไรสู่สังคม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ